“teamLab Botanical Garden Osaka” สร้างขึ้นโดย teamLab กลุ่มศิลปะยอดนิยม เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแบบถาวรในยามค่ำคืนในสวนพฤกษศาสตร์กลางแจ้ง พืชพรรณและต้นไม้จะสว่างไสวด้วยแสงไฟอันน่าอัศจรรย์และลอยอย่างสวยงามในสวนพฤกษศาสตร์ในยามค่ำคืน นี่คือไฮไลท์บางส่วนของ “teamLab Botanical Garden Osaka” ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

TeamLab เป็นกลุ่มศิลปะที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 เป็นกลุ่มระหว่างประเทศที่ศึกษาสำรวจจุดเปลี่ยนของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติผ่านการสร้างสรรค์ร่วมกัน ประกอบด้วยศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชัน CG นักคณิตศาสตร์ สถาปนิก และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ในหลากหลายสาขา

ผลงานของ Team Lab อยู่ในคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยลอสแองเจลิส (ลอสแองเจลิส), หอศิลป์นิวเซาท์เวลส์ (ซิดนีย์), หอศิลป์เซาท์ออสเตรเลีย (แอดิเลด), พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียซานฟรานซิสโก (ซานฟรานซิสโก), เอเชีย Society (นิวยอร์ก), Borusan Contemporary Art Collection (อิสตันบูล), National Gallery of Victoria (เมลเบิร์น) และ Amos Rex (เฮลซิงกิ)

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในตอนกลางคืนแห่งนี้เปิดให้บริการในฤดูร้อนปี 2022 ที่สวนพฤกษศาสตร์นากาอิในโอซาก้า  สวนพฤกษศาสตร์นากาอิซึ่งเปิดในปี 1974 เปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2022 พร้อมปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการปลูกพืช ได้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะเขียวชอุ่มที่มีพืชประมาณ 1,200 สายพันธุ์บนพื้นที่ 240,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สวนพฤกษศาสตร์ในตอนกลางวันจะเป็นพื้นที่สำหรับงานศิลปะ แต่ในตอนกลางคืนจะเปิดเป็น “teamLab Botanical Garden Osaka” จะเปิดเป็นนิทรรศการถาวรในตอนกลางคืน เวลาเปิดทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปี ดังนั้นโปรดตรวจสอบ เว็บไซต์ทางการ​

นิทรรศการเปลี่ยนสวนพฤกษศาสตร์ให้กลายเป็นพื้นที่ศิลปะแสงสี โดยจัดแสดงกลุ่มผลงานที่ใช้พืชพรรณและต้นไม้ในสวนและพฤติกรรมของนกที่อาศัยอยู่ในสวน TeamLab กำลังทำงานในโครงการที่เรียกว่า “ธรรมชาติดิจิทัล” ซึ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้ธรรมชาติกลายเป็นศิลปะ ซึ่งนี่คือโครงการที่ทำให้ธรรมชาตินั้นกลายเป็นงานศิลปะโดยที่ไม่ทำลายธรรมชาติแม้แต่น้อย งานศิลปะใน “teamLab Botanical Garden Osaka” จะถูกเปลี่ยนโดยลม ฝน และพฤติกรรมของผู้คนในสวน ทำให้สิ่งแวดล้อมและผู้คนเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ พื้นที่ศิลปะจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของสวนพฤกษศาสตร์ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

เราแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าบนเว็บไซต์ออฟฟิเชียล เพราะตั๋วอาจขายหมดก่อนได้

【ซื้อออนไลน์และซื้อที่คู่มือการเล่นต่างๆ】

〇 ผู้ใหญ่ นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป: 1,800 เยน
〇 เด็กประถม/มัธยมต้น: 600 เยน
〇 ส่วนลดสำหรับผู้พิการ: 900 เยน สำหรับผู้ที่มีสมุดคู่ฝากและผู้ติดตามไม่เกิน 1 คน
〇 เด็กก่อนวัยเรียนเข้าฟรี

มีวิธีในการซื้อตั๋วล่วงหน้าหลายทางดังต่อไปนี้ ตั๋วเป็นแบบระบุวันและเวลาเข้าชม และไม่จำกัดระยะเวลาที่คุณจะอยู่ได้หลังจากเข้าชม

(1) ซื้อตั๋วจาก เว็บไซต์ขายตั๋วอย่างเป็นทางการ

(2) ซื้อตั๋วจาก Playguide

・ ตั๋วลอว์สัน

・ ตั๋วเซเว่น-อีเลฟเว่น

(3) ซื้อตั๋วจากเว็บไซต์จองประสบการณ์การเดินทาง

・ klook

・ เคเคเดย์

(4) ซื้อตั๋ว ณ TeamLab วันที่ไป

แสงไฟในสวนมืดสลัวเป็นพื้นที่ให้เพลิดเพลินกับแสงไฟในยามค่ำคืน แม้ว่าสวนสาธารณะจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพื่อให้เดินเล่นได้สะดวก แต่เราขอแนะนำให้คุณสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เช่น รองเท้าผ้าใบและกางเกงขายาว หากคุณพาเด็กมาด้วย ขอแนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังที่ไม่ต้องถือของด้วยมือทั้งสองข้าง
แมลงยังเป็นปัญหาในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากสวนพฤกษศาสตร์อยู่กลางแจ้ง อย่าลืมนำสเปรย์ไล่แมลงมาด้วย
ไม่มีร้านอาหารในสวนสาธารณะ ในช่วงฤดูร้อน อาจมีคิวที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ ดังนั้นควรนำเครื่องดื่มติดตัวไปด้วยในช่วงฤดูร้อน

ในฤดูหนาว ใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นเพียงพอก่อนที่เข้าไปเยี่ยมชม

หากคุณต้องการเยี่ยมชมผลงานทั้งหมดและใช้เวลาในการถ่ายรูปด้วย คุณควรมีเวลาราว 2 ชั่วโมงเพื่อเพลิดเพลินกับจุดต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะอาจมีผู้คนพลุกพล่านในช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่นและวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นเราขอแนะนำให้เผื่อเวลาให้เพียงพอก่อนจะถึงเวลาปิดทำการ

สวนสาธารณะแบ่งออกเป็น 6 ส่วนตั้งแต่ A ถึง F ซึ่งแต่ละส่วนมีจุดที่น่าสนใจของตัวเอง แม้ว่าจะมีทางเข้าแต่ก็ไม่มีเส้นทางที่แน่นอน คุณมีอิสระที่จะเยี่ยมชมพื้นที่ใดก็ได้ที่คุณชอบ ดังนั้นโปรดเพลิดเพลินในแบบที่คุณชอบ จะแวะมาดูที่โซนไหนเมื่อไหร่หรือดูซ้ำกี่รอบก็ได้ หากไปกันหลายคนคุณอาจมองเห็นพื้นที่นั้นในมุมมองที่ต่างออกไปจากคนอื่นก็เป็นได้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แตกต่างกันของพื้นที่ศิลปะ เช่น greenery เขียวขจี ใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง และใบไม้ร่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล

อย่างแรกคือ “ประติมากรรมนกกระจายตัวในสายลม” ในพื้นที่ C ศิลปะแสงที่ฉายบนผนังทั้งสามดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในตอนกลางวันและตอนกลางคืน เป็นกลุ่มประติมากรรมขนาดใหญ่ที่ยังคงแสดงถึงพลังงานที่นกมอบให้กับสภาพแวดล้อมโดยรอบขณะที่พวกมันบินไปรอบ ๆ พื้นที่ คุณจะไม่เห็นงานศิลปะที่สะท้อนอยู่ในภาพปัจจุบันสองครั้ง เป็นงานศิลปะที่ควรไปเยี่ยมชมสองหรือสามครั้งเพื่อเพลิดเพลินกับความแตกต่าง

สถานที่ที่สองคือบริเวณสวนคามีเลียในพื้นที่ B ในสวนคามีเลียมีการจัดแสดงผลงาน 3 ชิ้น ได้แก่ “Resonating Microcosms in the Common Camellia Garden – Solidified Light Color, Sunrise and Sunset” , “Resonating Microcosms in the Common Camellia Garden – Liquified Light Color, Sunrise and Sunset” และ “Resonating Common Camellia Garden”
ผลงานจะเรียงตัวกันเป็นรูปวงรีที่เรียกว่า Ovoid ซึ่งจะเปลี่ยนไปอย่างมากในตอนกลางวันและหลังพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสามชิ้นมีขนาดและแสงต่างกัน แต่ละชิ้นมีบรรยากาศต่างกัน ทั้งสามชิ้นมีขนาดและแสงต่างกัน และแต่ละชิ้นมีบรรยากาศต่างกัน

สถานที่ที่สามคือ “ป่าแห่งชีวิตอิสระ – ยูคาลิปตัส” ในพื้นที่ C วงรีของแสงแต่ละดวงที่ตั้งอยู่อย่างหนาแน่นในสี่เหลี่ยมยูคาลิปตัสนั้นเป็นอิสระ เมื่อพวกมันถูกผู้คนหรือลมพัดพาพวกมันจะเปลี่ยนสีของแสง ทำให้เกิดโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ ตัววงรีจะตอบสนองต่อวงรีที่อยู่รอบๆ ทีละวง เปลี่ยนเป็นสีเดียวกันและให้เสียงโทนเดียวกันต่อเนื่องกัน งานมีความหนาแน่นพอ ๆ กับความสูงของคน และเมื่อคุณลุยเข้าไปในงาน คุณจะรู้สึกราวกับว่าถูกห่อหุ้มด้วยแสง เสียงสะท้อนของแสงยังทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงการมีอยู่ของผู้คนในพื้นที่เดียวกัน ขอให้สนุกกับการจับ สัมผัส และโต้ตอบกับงานศิลปะ

สถานที่แห่งที่สี่และแห่งสุดท้ายอยู่ที่พื้นที่ F “โคมไฟลอยสะท้อนบนทะเลสาบโออิเคะ – ไฟ” โคมไฟจำนวนมากลอยอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่จริงๆ แสงที่นุ่มนวลทำให้ผ่อนคลาย เมื่อผู้คนยืนนิ่งใกล้ตะเกียงหรือเมื่อถูกลมพัด โคมไฟจะส่องแสงและเสียง โคมไฟที่อยู่รอบๆ ก็ตอบสนองตามกัน ส่องแสงและเปล่งเสียงของมัน และแสงจะส่องไปยังต้นไม้บนเกาะเล็กๆ ที่ลอยอยู่ใจกลางสระน้ำ เช่นเดียวกับ “ป่าแห่งชีวิตอิสระ – ยูคาลิปตัส” งานนี้ทำให้เรารู้สึกถึงการมีอยู่ของคนอื่นในพื้นที่เดียวกัน

นอกจากนิทรรศการถาวรที่แนะนำข้างต้นแล้ว พื้นที่ศิลปะที่ “teamLab Botanical Garden Osaka” ยังมีนิทรรศการที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลของสวนพฤกษศาสตร์ ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว จนถึงตอนนี้ มีการจัดแสดงดอกเนโมฟีลาในฤดูใบไม้ผลิและดอกทานตะวันที่ประดับไฟในฤดูร้อน

หวังว่าจะได้เห็นผลงานของคุณกับพืชพรรณตามฤดูกาลในอนาคต!