ในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับ “พระใหญ่แห่งนารา” ที่มีชื่อเสียง! แต่หากได้รู้จักพระใหญ่แห่งนารายิ่งขึ้น ท่านจะพบความรู้สึกที่ต่างออกไปจากเดิม อย่ารอช้า..งั้นไปกันเลย!

พระใหญ่คืออะไรกันแน่? คำว่า "ไดบุทสึ" หมายถึง "พระพุทธรูปขนาดใหญ่" ในตัวอักษรจีน

ตามทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า พระใหญ่จะเป็นรูปปั้นที่มีความสูงกว่า 4.85 เมตรขึ้นไป แต่เหตุผลนี้ก็ยังไม่แน่นอน และนอกจากนี้ยังมีทฤษฎีต่างๆ มากมาย เช่น ทฤษฎีที่พระพุทธเจ้ามีความสูงอยู่ที่ประมาณนี้ หรือ นี่เป็นความสูงของพระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จมาปรากฏบนโลกนี้

และพระใหญ่องค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดโทไดจิ”

วัดโทไดจิสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน ในสมัยที่ญี่ปุ่นอยู่ใน "สมัยนารา"

จักรพรรดิโชมุ เป็นผู้ศรัทธาอย่างมากในพระพุทธศาสนา ในขณะนั้นความไม่สงบทางสังคม เช่น โรคระบาดและภัยพิบัติต่างๆ ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศ และผู้คนก็เริ่มหมดหวังกับการมีชีวิตอยู่ เพื่อช่วยเยียวยาชีวิตของชาวเมืองจักรพรรดิโชมุได้สร้างวัดโทไดจิขึ้นมาเพื่อให้พลังแห่งพระพุทธศาสนามาช่วยเยียวยาจิตใจ บางคนบอกว่ามีคนมากถึง 2.6 ล้านคน หรือราวครึ่งหนึ่งของประชากรในขณะนั้น ให้ความร่วมมือในการก่อสร้างวัดโทไดจิ และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นงานก่อสร้างใหญ่และเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในขณะนั้น

มุ่งหน้าสู่ “นัมแดมุน” พบกับกวางจำนวนมากที่สามารถสำผัสได้อย่างใกล้ชิด และผ่านประตูใหญ่ที่มีความสูงกว่า 25 เมตร

ทั้งสองฝั่งของนันไดมงจะมี “รูปปั้นคงโกริคิชิ” ที่สร้างโดย คุณอุนเคอิ คุณไคเกะ และประติมากรผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ อีกหลายท่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปปั้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีลวดลายที่สวยงาม ด้วยความสูงกว่า 8 เมตร จึงเป็นสิ่งนึงที่พลาดไม่ได้ที่จะหยุดรับชม

หลังจากผ่านศูนย์จำหน่ายตั๋ว นี่คือไดบุทสึเด็นที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่!

เมื่อคุณเข้าไปด้านในของอาคารพระใหญ่ 

พระใหญ่นารามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “รัชนาบุตสึ” มีความสูงประมาณ 15 เมตร (รวมฐาน 18 เมตร)

องค์พระใหญ่หันพระหัตถ์ขวาไปข้างหน้า นี่หมายความว่า "อย่ากลัว" และมือซ้ายของเขาหมายถึง "ฉันจะให้ความหวังกับผู้คน ญี่ปุ่นในขณะนั้นกำลังประสบกับโรคระบาดและภัยพิบัติ องค์พระใหญ่นี้เป็นตัวแทนของจักรพรรดิโขมุ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ดังกล่าว

หากมีโอกาสก็อย่าลืมแวะมาขอพรพระใหญ่นารา และคุณจะได้สัมผัสถึงความสงบอย่างแท้จริง คลายความเหนื่อนล้าในชีวิตประจำวัน!

หลังจากเยี่ยมชมพระใหญ่แล้ว ก็แวะซื้อของที่ระลึกและสามารถใช้เวลาเล่นกับกวางในบริเวณรอบๆ นอกจากนั้นยังสามารถซื้อแครกเกอร์ (อาหารกวาง) ให้กวางได้อีกด้วย รับรองว่าคุณจะโดนล้อมไปด้วยเหล่ากวางแน่นอน!

หากท้องหิว แนะนำให้ลองชุดอาหารกลางวันดาชิมากิเบาๆ ของโซเมยะ โชเท็น และคุณจะประทับใจกับดาชิมากิที่นุ่มและน้ำซุปมิโซะที่รสชาติกลมกล่อม หากสั่งเมนูอื่นก็สามารถสั่งไข่หวานแยกต่างหากได้ นอกจากนั้นยังมีแซนด์วิชไข่, ออมเล็ต, และอาหารอื่นๆ ที่เป็นเมนูไข่อีกมากมาย

หากคุณเที่ยวทั่วนาราแล้ว อยากหาที่พักผ่อนหย่อนใจกับน้อนๆ กวางทั้งหลาย และลิ้มรสเค้ก, รูปกวางน่ารัก และชารสเลิศๆ ที่คาเฟ่ที่สร้างจากบ้านเก่าสมัยโบราณ

ใช้เวลาเดินจากวัดโทไดจิประมาณ 15 นาที จะถึงโรงเบียร์คราฟต์ "Naramachi Brewery" ซึ่งสำหรับคนรักเบียร์แล้วหากได้ลองต้องกลับมาเป็นคร้ังที่สองอย่างแน่นอน! หากมีเวลาก็อย่าลืมแวะมาชิมเบียร์แห่งนารากัน!

นอกจากนี้ยังมีแบบ To-go ด้วย สามารถซื้อเป็นขวดกลับไปได้เลย!

เป็นอย่างไรกันบ้าง?
นาราเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชมประวัติศาสตร์ สำรวจธรรมชาติแบบใกล้ชิด นอกจากนั้นเรื่องกินและดื่มก็ดีไม่แพ้กัน อย่าลืมแวะไปเที่ยวนารากันนะ!

ข้อมูลอ้างอิง: Tabicoffret

​

​