อื่น ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
ไปศาลเจ้าและวัดในคันไซเพื่อรับ "ฮัตสึโมเดะ" ปีใหม่กันเถอะ!
“ฮัตสึโมเดะ” หมายถึงการไปศาลเจ้าหรือวัดครั้งแรกของปี จุดประสงค์คือเพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมาและขอพรให้โชคดีในปีหน้า ศาลเจ้าหรือวัดแต่ละแห่งต่างก็มีพรที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะแนะนำสถานที่ยอดนิยมสำหรับการไปศาลเจ้าในช่วงปีใหม่ในโอซาก้า เกียวโต โกเบ และนารา โดยแบ่งตามพรของแต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วรถไฟที่สะดวกสำหรับการไปเยี่ยมชมอีกด้วย มาสัมผัสประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นนี้กัน! -INDEX- ตั๋ว Hankyu Hanshin New Year 【OSAKA/โชคดีในการชนะ】Katsuo-ji temple【KYOTO/การขจัดโรคภัยไข้เจ็บ】Yasaka Shrine【KYOTO/การแต่งงาน】ศาลเจ้า Shimogamo 【KYOTO/เทพเจ้าแห่งความงาม】ศาลเจ้า Kawai 【KOBE/คู่ที่เหมาะสม】ศาลเจ้า Ikuta 【Nishinomiya /ความเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจ】ศาล Nishinomiya【Nishinomiya /ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย】Mondo Yakujin Toukouji 【Takarazuka /การอธิษฐานให้คลอดลูกอย่างปลอดภัย】วัด Nakayamadera 【NARA/หายจากโรคภัยไข้เจ็บ】วัด Yakushiji “ ตั๋ว Hankyu Hanshin New Year” ให้คุณขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งวัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไปเยี่ยมชมศาลเจ้าในปีใหม่ของคุณ นี่คือตั๋วพิเศษสำหรับปีใหม่ที่ให้คุณขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งวันบน Hankyu Railway, Hanshin Railway และ Kobe Kosoku Railway ทุกสาย (รวมบัตรกำนัลที่ระลึก) ■คุณสามารถใช้คูปองที่แนบมากับตั๋วเพื่อรับของขวัญได้ที่ศาลเจ้าต่อไปนี้ ช่วงเวลาแลกรับของขวัญ: 1 มกราคม ถึง 7 มกราคม 2025 [ศาลเจ้า 3 แห่งในโกเบ]: ศาลเจ้าอิคุตะ ศาลเจ้ามินาโตะกาวะ ศาลเจ้านากาตะ [วัด 3 แห่งเพื่อโชคลาภ]: มอนโด ยาคุจิน Kiyoshikojin จิน นากายามะเดระ [ศาลเจ้า 3 แห่งในเกียวโต]: ศาลเจ้า Yasaka Shrine ศาลเจ้าเฮอันจิงกุ ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุ ช่วงเวลาแลกรับของขวัญ: 1 มกราคม ถึง 11 มกราคม 2025 [ฮัตสึโมเดะและโทกะ เอบิสุ]: ศาล Nishinomiya ■ ข้อมูลเกี่ยวกับการแลกรับ ・โปรดถอดคูปองของขวัญที่ระลึกออกแล้วนำไปแลกที่จุดแลกรับที่กำหนดของศาลเจ้าหรือวัดแต่ละแห่ง ・โปรดทราบว่าอาจไม่สามารถแลกรับได้ในช่วงเช้าตรู่หรือหลัง 16.00 น. ・ของขวัญที่ระลึกอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือกระบวนการแลกรับอาจสิ้นสุดลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เงื่อนไขการใช้งาน: 1 ท่าน สามารถใช้เดินทางได้ไม่จำกัดเที่ยวภายในระยะเวลาที่กำหนด 1 วัน: ・ Hankyu Railway ทุกสาย・รถไฟ Hanshin ทุกสาย ・รถไฟ Kobe Kosoku ทุกสาย (รวมถึง Nishidai และ Minatogawa) เวลาทำการของ “เคาน์เตอร์ข้อมูล” และ “ช่องจำหน่ายตั๋วสถานี” คือ 06:00 น. รวมถึงวันปีใหม่ หากคุณวางแผนที่จะใช้บริการเหล่านี้ในช่วงเช้า โปรดซื้อตั๋วก่อนวันเดินทางที่ต้องการ 1 วัน ระยะเวลาการขาย: 20 ธันวาคม 2024 (วันศุกร์) – 11 มกราคม 2025 (วันเสาร์) (โปรดทราบว่าสินค้าอาจหมดในช่วงระยะเวลาการขาย) ระยะเวลาที่ใช้ได้: 1 มกราคม 2025 (วันพุธและวันหยุดนักขัตฤกษ์) – 11 มกราคม 2025 (วันเสาร์) ราคา: ผู้ใหญ่: 1,200 เยน เด็ก: 600 เยน สถานที่จำหน่าย: Hankyu Railway: ・ Hankyu Railway เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (Osaka-umeda, Juso, Tsukaguchi กุจิ , นิชิ Kobe-sannomiya-Nishinomiya-kitaguchi Toyonaka ซิคุกาวะ, โกเบ-ซันโนมิยะ , โทโยนากะ , อิชิบาชิ-ฮันไดมาเอะ, Kawanishi-noseguchi Takarazuka, ทาคาระซึกะ , Awaji, คิตะเซนริ, อิบารากิชิ, ทาคัตสึชิชิ, Katsura, Kyoto-kawaramachi) ・ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวฮันคิว (Kyoto-kawaramachi, Karasuma) รถไฟ Hanshin: ・ทุกสถานี (ยกเว้นสถานี Osaka-Namba) ・สำนักงานสถานีรถไฟ Hanshin (Osaka-Umeda, Amagasaki Koshien, โคชิ Mikage, มิคาเงะ , Kobe-Sannomiya, Shinkaichi) ・ Hanshin Electric Railway Service Center (Kobe-Sannomiya) โกเบโคโซกุ: ・สถานีทั้งหมด (ยกเว้นสถานี Nishidai และมินาโตกาวะ) และสถานที่อื่นๆ *ไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่วงเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ ณ สถานที่เหล่านี้ นโยบายการคืนเงิน: สามารถขอคืนเงินได้เฉพาะตั๋วที่ไม่ได้ใช้เท่านั้น คุณสามารถดำเนินการขอคืนเงินได้ที่เคาน์เตอร์ซื้อตั๋วจนถึงวันที่ 11 มกราคม 2025 (จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการสำหรับการขอคืนเงิน) ธรรมะเป็นที่นิยมในฐานะเครื่องรางนำโชคเพราะสามารถลุกขึ้นได้เมื่อล้มลง วัดคัตสึโอจิมีชื่อเสียงในฐานะวัดแห่งโชคลาภ โดยมีรูปปั้นธรรมะประดิษฐานอยู่ทั่วบริเวณวัด ใช้คำทำนายธรรมะเพื่อทำนายดวงในด้านต่างๆ เช่น การสอบเข้า ความรัก และกีฬา ศาลเจ้าแห่งนี้มีอยู่มาตั้งแต่ก่อนปี 794 และเป็นที่รู้จักในชื่อ “กิออนซัง” Yasaka Shrine และศาลเจ้าอื่นๆ ที่อุทิศให้กับซูซาโนะโนะมิโกโตะทั่วทั้งญี่ปุ่น นอกจากศาลเจ้าหลักซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติแล้ว ยังมีเทพเจ้าอื่นๆ อีกมากมายที่ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้า เช่น ศาลเจ้าโรคระบาด ซึ่งอุทิศให้กับการขับไล่โรคระบาดและความชั่วร้าย ศาลเจ้าชิโมงาโมะเป็นที่รู้จักในฐานะจุดพลังแห่งความรัก ที่นี่ คุณสามารถขอพรให้กลายเป็นรูปกิโมโนที่เรียกว่า “เอ็นมิมุสุบิมิคุจิ” คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการตกหลุมรักตามบทกวีวากะจากนิทานเก็นจิ “ฮิเมะมาโมริ” ซึ่งมีผ้าจิริเมนที่งดงามก็สวยงามเช่นกัน หากคุณต้องการมีความสวยงาม ให้ไปที่ศาลเจ้าคาวาอิ! ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ภายในศาลเจ้าชิโมงาโมะ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าผู้ปกป้องผู้หญิง ศาลเจ้าคาวาอิมีแผ่นป้ายรูปอธิษฐานพิเศษ (เอมะ) เพื่อขอพรให้สวยงาม ใช้เครื่องสำอางที่คุณใช้เป็นประจำแต่งหน้าให้สวยงามบนเอมะของคุณและขอพร คุณจะดูสวยขึ้นอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่ภายนอกแต่ยังรวมถึงภายในด้วย ศาลเจ้าอิคุตะตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโกเบ ศาลเจ้าหลักสีแดงและศักดิ์สิทธิ์นั้นสวยงามมาก และบรรยากาศอันเคร่งขรึมจะช่วยชำระล้างร่างกายและจิตวิญญาณของคุณ ด้านหลังศาลเจ้าหลักคือป่าอิคุตะ ซึ่งคุณสามารถทำ "การทำนายน้ำเพื่อการแต่งงาน" ได้ นอกจากนี้ เอมะ (แผ่นคำอธิษฐาน) ที่ศาลเจ้าอิคุตะยังมีรูปร่างเป็นหัวใจที่น่ารักมาก อธิษฐานขอให้ได้คู่ครองที่ดี! ศาลเจ้า Nishinomiya เป็นสำนักงานใหญ่ของศาลเจ้าเอบิสึทั้งหมดในญี่ปุ่น ซึ่งบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เอบิสึซามะ และเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่า "เอเบซังแห่ง Nishinomiya" มีชื่อเสียงในฐานะเทพเจ้าแห่งความเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจ "ไทมิคุจิ" ซึ่งมอบให้เฉพาะในช่วงปีใหม่เท่านั้นนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก ในช่วงชีวิตที่ยาวนาน มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้น และมีช่วงพักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางสังคมต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้สูงอายุจึงได้คิดค้นประเพณี "ปีแห่งความโชคร้าย" ขึ้น กล่าวกันว่า Yakujin Myoo จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ วัด Mondo Yakujin Tokoji เป็นหนึ่งในสาม Yakujin Myoo ในญี่ปุ่น มาขอพรให้โชคดีเพื่อปัดเป่าโชคร้ายกันเถอะ เพื่อที่เราจะได้มีปีใหม่ที่สงบสุข วัด Nakayamadera ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ Kannon แห่งแรกในญี่ปุ่น ก่อตั้งโดยเจ้าชาย Shotoku สตรีมีครรภ์จำนวนมากจากทั่วญี่ปุ่นมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "วัดแห่งการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย" วัด Nakayama มีบันไดเลื่อนเพื่อไม่ให้สตรีมีครรภ์ต้องเดินขึ้นบันไดหิน นี่เป็นน้ำใจอันดีงามที่วัดที่อุทิศให้กับการอธิษฐานให้คลอดบุตรอย่างปลอดภัยเท่านั้นที่จะทำได้ อย่าพลาดชมเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 2017 เป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 400 ปี สีน้ำเงินเข้มนั้นน่าประทับใจมาก วัดยาคุชิจิซึ่งเป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี 680 โดยจักรพรรดิเท็นมุเพื่อขอพรให้จักรพรรดินีของพระองค์หายจากอาการป่วย เทพเจ้าองค์หลักของวัดคือยาคุชิจิเนียวไร ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าแห่งการแพทย์ พระองค์จะขจัดความเจ็บป่วยและเคราะห์ร้ายให้ผู้คน และมอบสุขภาพและความสุขให้แก่พวกเขา เชื่อกันว่าวัดแห่งนี้มีพรในการกำจัดไม่เพียงแค่ความเจ็บป่วยทางกายเท่านั้น แต่ยังขจัดจิตใจที่บ่นพึมพำของผู้คนได้อีกด้วย มาเยี่ยมชมวัดในเมืองนาราโบราณและรับพลังจากวัดกันเถอะ หวังว่าปีใหม่นี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับคุณ
-
〈2024〉15 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น (เกียวโต โอซาก้า และอื่นๆ)!
Japan in autumn colors. Here are some of the best places in Kansai to see the autumn leaves, by area, from once-in-a-lifetime viewing spots to hidden gems. Please refer to the fall tourism in 2024. Due to the warmer temperatures continuing into November 2024, the peak viewing season for autumn foliage has been delayed. [2024] For real-time updates on the autumn foliage spots along Hankyu Railway! Please check here! *Japanese only -INDEX- 【KYOTO】 〇Higashiyama Area Famous place:Eikando Little known good spot:Anrakuji 〇Arashiyama Area Famous place:Daikaku-ji Temple Famous place:Jojakko-ji Little known good spot:Takenotera-Jizoin 〇Other Area Famous place:Rurikoin Little known good spot:Komyo-ji 【OSAKA】 Famous place:Minoh Waterfall Little known good spot:Katsuo-ji 【KOBE】 Famous place:Sorakuen Garden Famous place:Kobe Municipal Arboretum Little known good spot:Rokko Alpine Botanical Garden Little known good spot:Rokko-Arima Ropeway 【Other Area】 Himeji:KOKO-EN Nara:Hasedera temple 🍁Usual viewing time: mid-November to late November Eikando is the best place in Higashiyama to view the autumn leaves. About 3,000 maple trees cover the entire precincts of the temple. The sight of the tallest pagoda, Dabotou, enveloped by the autumn leaves is a fantastic sight. Japanese maples are planted around the Housho Pond, and the reflection of the Japanese maples and the Gokuraku Bridge in the water is a must-see. 🍁Usual viewing time: mid-November to late November Normally closed to the public, this special temple is open to the public only during the cherry blossom and autumn foliage seasons. Within walking distance is the Philosopher’s Path, which is tinted in autumn, so a walk along this path is recommended. Highlights include the scattered autumn leaves that turn the stone steps of the temple gate bright red and the beautiful garden with Nyoigatake in the background. ▼Check this article▼ 【Kyoto】1 Day Trip|Let’s walk around Higashiyama, Kyoto to see the autumn leaves! 🍁Usual viewing time: late November – early December The combination of the beautiful colors of the pagoda and the fiery maple leaves is gorgeous. Osawa Pond to the east is also a popular spot for viewing autumn leaves. The reflection of the autumn scenery on the surface of the water is fantastic. 🍁Usual viewing time: late November – early December This temple is located on Mt. Ogura, known for the Ogura Hyakunin Isshitsu. In autumn, the approach from the entrance gate to the Niomon Gate is covered in autumn leaves, creating a tunnel of foliage. The autumn leaves surrounding the 12-meter tall Dabotou (pagoda), which is located at the top of the stone steps, is a must-see. The precincts of the temple and the area around the pagoda also offer a panoramic view of Kyoto City. 🍁Usual viewing time: late November – early December It is a well-known autumn foliage viewing spot for those in the know. The trees change color later than other places in Kyoto, and the autumn leaves can be enjoyed until mid-December. Surrounded by lush bamboo groves, the contrast between the green of the bamboo and the changing colors of the autumn leaves is magnificent. The heart-shaped window, Inome-mado, in the Hojo is also open to the public. The autumn leaves cut by the window are breathtakingly beautiful. ▼Food info of Arashiyama area▼ Kyoto Arashiyama Sightseeing Half-day Model Course! Capture the bamboo forest, temples, nature, and major spots! 9 Sweets in Arashiyama, Kyoto, from Easy Eats to Stylish Cafes 🍁Usual viewing time: mid-November to late November Ruriko-in Temple is a popular spot in Rakuhoku Yase, and the spectacular view of the autumn leaves reflecting on the lacquered desk on the second floor is a sight to behold. Anyone can take pictures of this spectacular view by holding up a camera at the desk. It is open to the public only twice a year, in spring and fall. Please enjoy the wide-open view of the autumn leaves as they spread across your field of vision. Special viewing period: October 1, 2024 (Tuesday) – December 15, 2024 (Sunday) *Advance reservation required 🍁Usual viewing time: late November – early December Sohonzan Komyoji Temple is located at the foot of Nishiyama in Nagaokakyo City. Visitors can see the rich expression of nature in each of the four seasons. Every year from mid-November to early December, a special entrance to the temple is held for the autumn foliage. The maple approach to the temple, with its impressive lineup of about 250 old maple trees, is a superb photo spot. Nishiyama is one of Kyoto’s best but not well-known sightseeing spots. If you want to enjoy Kyoto without the crowds, or if you want to visit a spot that is not yet known, check out the article below. ▼Check this article▼ Kyoto Nishiyama|An undiscovered sightseeing spot in Kyoto! 🍁Usual viewing time: mid-November to early December Minoh Great Falls is one of the best places in Osaka to view the autumn leaves. The contrast between the waterfall and the autumn leaves in the vast Minoh Park is spectacular. You can enjoy the autumn leaves everywhere along the 2.6 km route from Hankyu Minoh Station to the falls. If you come to Minoh, you must try the famous “Momiji no Tempura” (maple leaf tempura). It is a slightly sweet and crunchy snack made by carefully frying real maple leaves one by one. You can buy it at a store on Takimichi. ▼Check this article▼ Note on how to get to Minoh Waterfall! Points that international travelers should know before going there 🍁Usual viewing time: mid-November to early December Known since ancient times as a temple of good fortune, the precincts of Minoh’s Katsuo-ji Temple are decorated with brilliant autumn leaves in November. The tunnel of autumn leaves covering the approach to the temple is especially spectacular. The contrast between the green mountains in the background and the autumn leaves is like a painting. Katsuo-ji Temple is also known as the temple of “Kachi-Dharma”. Small Dharma dolls are laid everywhere, including on the stairs and stone walls. Please enjoy the adorable Dharma and beautiful nature. ▼Check this article▼ What is the highlight of Katsuo-ji in Minoh? A temple of luck to win in Osaka sightseeing ▼Sightseeing and food info of Minoh▼ A Guide of Minoh|Sightseeing, Food and Transportation 🍁Usual viewing time: mid-November to early December Sorakuen Garden is the only Japanese garden in Kobe City’s urban parks. It is a kaiyu-style garden with a pond, with stepping stones and stone bridges across which visitors can view streams and waterfalls. The garden is famous for azaleas in spring, and in autumn the garden is decorated with autumn leaves. Important cultural properties such as the boathouse and the former Hassam residence, which were relocated for preservation, are also highlights. Why not enjoy an authentic Japanese garden and fall foliage viewing in the city of Kobe? 🍁Usual viewing time: late October – early November The park is divided into different regions of the world, such as North America and Europe, and different types of trees, so that visitors can learn about the diverse beauty of autumn leaves. The area around Hase Pond is a particularly beautiful spot for viewing the autumn colors in a water mirror. Let’s take a stroll through the vast park and enjoy the world tour of autumn leaves! ▼Sightseeing and food info of Kobe▼ 10 Delicious Gourmet Foods in Kobe! Local Specialties and Local Foods Recommended by Locals 10 Japanese Sake Tasting Spots in Nadagogo|Sake Breweries near Kobe 6 Sake Brewery Restaurants in Nadagogo near Kobe First Time in Kobe. 21 Best Things to Do! Sightseeing, Spots, Dining, Model Course 🍁Usual viewing time: late October – early November Located at an altitude of 865 meters, the Rokko Alpine Botanical Garden reaches its autumn foliage season earlier than the city. Trees like maples and beeches typically begin to change color from mid-October, with the peak season lasting until mid-November. Taking advantage of the climate, which is similar to southern Hokkaido, the garden cultivates alpine plants, allowing visitors to enjoy the autumn colors of a wide variety of rare plants. During the Kobe Rokko Meets Art festival, you can enjoy illuminated autumn leaves! ▼KOBE ROKKO MEETS ART Information▼ KOBE ROKKO MEETS ART 2024 beyond – Art Festival Held on the Mountain | Latest Information of 2024 🍁Usual viewing time: late October – early November The Rokko-Arima Ropeway connects the top of Mt. Rokko and Arima Onsen in about 12 minutes. Visitors can enjoy the changing autumn leaves depending on the elevation. The view of the autumn foliage from the gondola’s large foot-high windows is spectacular. Don’t forget to stop by Kobe Rokko Meets Art 2024 beyond, which is being held on Mt. Rokko until November 24, 2024. Also, at Arima Onsen, you can enjoy nature, hot springs and food! ▼Check this article▼ Arima Onsen-1 Day Trip|Enjoy Hot Springs, Gourmet, and Nature! The 10 best food and sweets in Arima Onsen Town 🍁Usual viewing time: mid-November to late November There are nine gardens of different styles with Himeji Castle, which is registered as a World Heritage site, in the background. Because of the atmosphere of the Edo period, the gardens are often used for filming movies and TV dramas. In the fall, the Autumn Foliage Festival is held from mid-November to early December. The best time to visit is during the “Momiji-kai” (autumn foliage viewing), when the leaves are illuminated for a fantastic view. You can enjoy a fantastic view that is different from that of daytime. 🍁Usual viewing time: late November – mid December Hasedera Temple, located in Sakurai City, Nara Prefecture, is known as the “Temple of Flowers”. The temple is open twice a year, in spring and fall, for a limited time for special visits. A must-see spot is the floor of the hall of worship. In autumn, visitors can enjoy the “Yuka-momiji” (floor maple leaves) that turn bright red. The view of the autumn leaves from the stage in front of the main hall is not to be missed. The five-story pagoda surrounded by autumn leaves is a magnificent sight. Be sure to visit Hasedera Temple, where the entire mountain is decorated with autumn leaves. Autumn in Japan is very vivid. There are so many places to see the autumn leaves that it is impossible to visit them all at once. Please find your favorite spot and enjoy the autumn foliage as you wish.
-
ทัวร์ครึ่งวันในโอซาก้า! 8 ทริปท้องถิ่นแนะนำ
Looking to explore local spots in Osaka? Want to discover some hidden gems? If you’ve already visited the major tourist attractions or want to uncover more of Osaka’s charm, here are some suggestions for a half-day short trip from central Osaka. From hands-on experiences in traditional crafts to lesser-known hidden spots, use this guide as inspiration for your Osaka adventure! *Please go to the homepage of each venue for detailed information such as admission fee. Index 1. Tower of the Sun: A tour inside the symbol of Expo ’70 Commemorative Park 2. Open-Air Museum of Old Japanese Farm Houses: An outdoor museum in Osaka recreating traditional Japanese life 3. Katsuo-ji Temple: Famous for its photogenic red Daruma Dolls in Osaka’s suburbs 4. Minoh Waterfall: Enjoy nature in half a day in Osaka’s Suburbs 5. Cupnoodles Museum Osaka Ikeda: Popular facility to experience design your own ramen 6. Sojiji Temple: Less known Osaka’s local temple 7. Ikoma Sanjo Amusement Park: A Historic Park with Panoramic Views of Osaka 8. Hoshi no Buranko: A Scenic Photo Spot in Osaka’s Suburbs Expo ’70 Commemorative Park was developed on the former site of the Japan World Exposition (Osaka Expo) held in 1970. Its iconic symbol, ‘Tower of the Sun,’ is a work by renowned Japanese artist Taro Okamoto, standing about 70 meters tall. Visitors can explore the inside of Tower of the Sun, which features a restored ‘Tree of Life,’ a 41-meter structure representing the evolution of life from primitive organisms to humanity, along with the ‘Sun of the Underworld’ exhibit. The grand and energy-filled displays are sure to amaze you. The tour takes about 30 minutes. *Please note that visits to the Tower of the Sun require advance reservations. *For tours, a separate entry fee for the Natural and Cultural Gardens is required (same-day tickets may be available if there are open slots). After visiting the Tower of the Sun, it is recommended to go around Natural and Cultural Gardens and Japanese Garden and enjoy the seasonal flowers. ▼Check this article for details on best period to visit and how long for a tour▼ Expo ’70 Commemorative Park is a great place to visit in Osaka! Highlights Explained! In addition, next to Expo ’70 Commemorative Park is Japan’s largest shopping complex EXPOCITY, where you can find the biggest Ferris wheel “OSAKA WHEEL” and an aquarium for small creatures “NIFREL”. Also, more than 300 shops gather at the shopping mall “La La Port EXPOCITY”. It’s a place where visitors can enjoy a wide selection of fashion, accessories, gourmet food, and souvenirs. Step into the world of a Japanese folktale! The Open-Air Museum of Old Japanese Farm Houses is an outdoor museum featuring relocated and restored traditional houses from various regions of Japan. One of the homes, relocated from Shirakawa Village in Gifu Prefecture, showcases the “gassho-zukuri” style, known for its steep, triangular thatched roof. It is worth noticing that no nails at all were used in the construction. In addition, the museum features 12 other buildings, including a traditional house from southern Iwate Prefecture where the main house and stable are combined, and a raised-floor grain storage structure from Amami Oshima. Each building reflects the unique adaptations made for insulation, ventilation, and other needs based on the climate and culture of its region. It would be a great opportunity to experience traditional Japanese living first-hand. Katsuo-ji, the temple of good fortune, is located in Minoh. The expansive grounds are dotted with red Daruma dolls, making it a great spot for taking photos. Besides, the temple offers audio guides for international visitors, a stamp rally, and original souvenirs, providing plenty of ways to enjoy your visit! You can explore the temple in about an hour ▼Check this article for details on best period to visit▼ What is the highlight of Katsuo-ji in Minoh? A temple of luck to win in Osaka sightseeing After visiting Katsuo-ji, take the Hankyu Bus back to the nearest station, Minoh-Kayano Station (get on from the backdoor and get off from the front). When you get off the bus, there are popular eateries like “Ippudo Ramen” and “Kushikatsu Tanaka,” famous for Osaka’s signature skewered cutlets, making it a convenient spot for lunch or a quick snack. Minoh Waterfall is a nature-rich spot easily accessible from central Osaka! With a drop of about 33 meters, Minoh Falls has been selected as one of Japan’s Top 100 Waterfalls and is a must-see tourist attraction in Osaka. It’s about a 40-minute walk from Minoh Station to Minoh Waterfall, and in just two hours’ round trip you can fully enjoy the surrounding nature. Along the path, you’ll find local street food like the famous “Momiji Tempura” (fried maple leaves) and charming forest cafes with great views. Taking a leisurely stroll and soaking in the scenery is one of the best parts ,so be sure to take your time to relax and enjoy! By the way, the admission is free. Also, you may walk to Minoh Waterfall from Katsuo-ji Temple as mentioned above. ▼Check this article▼ Note on how to get to Minoh Waterfall! Points that international travelers should know before going there 8 recommended gourmet restaurants in Minoh Waterfall! Cafes & Shops to stop by for sightseeing If you have more time to spend, a hot spring themed facility called “Ooedo Onsen Monogatari Minoh Onsen Spa Garden” is nearby. You can enjoy various entertainment options, like trying out festival food stalls while wearing a yukata or watching traditional theater performances. It’s easy to stop by on your way from Minoh Station to Minoh Falls, making it a convenient detour. ▼Check this article▼ Minoh, Osaka-1 Day Trip|Enjoy The Most Beautiful Nature in Osaka! Minoh Waterfall, one of the most famous tourist attractions in Osaka 4 private onsen & baths to enjoy in a private room in Osaka! Hot spring resorts where you can stay overnight or enjoy a day trip The Cupnoodles Museum, dedicated to the globally beloved Nissin Foods brand, offers free admission and provides insights into its history and innovations. A must-try experience is the ‘My Cup Noodles Factory,’ where you can create your own custom cup noodles! Design your cup, choose your favorite ingredients and soup base, and make a unique creation (takes about 45 minutes, fee required). To participate in the experience, you’ll need a numbered ticket, which is distributed on a first-come, first-served basis on the day of your visit. The museum’s official website provides updates on crowd conditions , so be sure to check it beforehand. Since it’s also close to Minoh Waterfall, you could easily spend half a day in Ikeda in the morning and visit Minoh in the afternoon for a perfect day trip. ▼Check this article▼ CUPNOODLES MUSEUM OSAKA IKEDA Additionally, “Shubodai” at Mount Satsuki is a great scenic spot in Ikeda! It’s perfect for photos with the townscape framed through the torii gate in the background. ▼Check this article▼ 3 restaurants where you can eat plant-based food near CUPNOODLES MUSEUM in Osaka Ikeda Temples rooted in non-touristy areas offer a glimpse into the daily lives of locals, providing a chance to experience authentic Japanese culture. Sojiji Temple, which lends its name to the nearby Hankyu Kyoto Line station, is one of the stops on the “Saikoku Kannon Pilgrimage,” a recognized Japanese heritage site. The temple’s founder, Fujiwara no Yamakage, is renowned for offering meals he prepared for a thousand days and is revered as the founder of the culinary tradition “Hocho-do” (the Way of the Knife). In line with this, the temple has a mound for retired knives and kitchen amulets, making it a place loved by chefs. In 2020, a café opened at Sojiji Temple. Its unique structure is inspired by the Himalayan Mountains, symbolizing the transmission of Buddhism from the Himalayas to Japan. Visitors can enjoy a peaceful and relaxing time, blending in with the local community and temple parishioners. What’s more, if you take the Hankyu Kyoto Line for about just 20 minutes, there is Minase Shrine, which is a recommended spot to enjoy seasonal beauty with cherry blossoms in spring, wind chimes in summer, and autumn leaves in fall. ▼Check this article▼ 11 Summer Events in Kansai! Experience and learn about Japanese traditions and customs Mount Ikoma, standing at an elevation of 642 meters on the border between Osaka and Nara, is home to Ikoma Sanjo Amusement Park. The park features over 20 rides and has free admission. With more than 90 years of history, this park offers fun for both children and adults in a safe environment. A must-try is the Cycle Monorail, where you can cycle through the air while enjoying the breathtaking view. It is an exciting experience for visitors of all ages (rides require a fee). The cable car connecting Toriimae Station and Ikomasanjo Station is also a popular attraction. On your way up, you can stop and visit Hozanji Temple, located halfway up the mountain, which is well worth a visit. Hoshi no Buranko is one of the largest wooden suspension bridges in Japan. Located in the lush Hoshida Enchi of Katano City, it has become increasingly popular among international visitors in recent years. The bridge spans 280 meters in length, with a maximum height of 50 meters above the ground, offering breathtaking views of the surrounding countryside! Especially in autumn, the gradient of vibrant autumn foliage creates a stunning landscape. The best time to see the autumn colors is usually from late November to early December. There’s also an observation deck in the park, so it is recommended to spend at least two hours for a leisurely walk. From the nearest bus stop, it’s about a 40-minute walk through Hoshida Enchi to reach Hoshi no Buranko. Since the trails inside the park are unpaved, it is more like a light hike, so wearing comfortable shoes is highly recommended. When it comes to Osaka’s famous landmarks, places like Osaka Castle, Tsutenkaku Tower, Umeda Sky Building, and the HEP FIVE Ferris Wheel are more well-known. But, have you discovered that there are still many more charming spots waiting to be explored? Be sure to visit them and uncover a new side of Osaka!
-
ทริป 1 วันจากโอซาก้า! 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เดินทางโดยรถไฟ
Osaka, the financial center of west Japan. Are you thinking about visiting this amazing city? Or about to start looking for the best tourist attractions in and around Osaka? The following is going to introduce you the most recommended spots for a one-day trip. All of them are easy to access by railway started from the biggest terminal station Osaka-umeda. If you are making plans for your trip, let’s check it out! -INDEX- 1.【Hyogo】Kobe City Center 2.【Hyogo】Mt. Rokko area 3.【Hyogo】Arima Hot Spring 4.【Hyogo】Himeji Castle 5.【Hyogo】Kinosaki Hot Spring 6.【Hyogo】Awaji Island 7.【Kyoto】Arashiyama Area, Kiyomizu-dera Temple and Kyoto City Center 8. 【Kyoto】Nishiyama Area 9. 【Kyoto】Amanohashidate Area 10. 【Kyoto】Miyama Village 11. 【Nara】Nara Park, Todai-ji, Kasugataisha Shrine and Nara City Center 12.【Shiga】Biwako Valley Kobe, a coastal city, developed rapidly under the influence of foreign cultures since the opening of Kobe Port in 1868. Since it has a completely different atmosphere from Osaka and Kyoto, we recommend you to visit Kobe to learn more about West Japan’s culture. Besides, it only takes 30 minutes by railway from Osaka to Kobe. The center of Kobe City is Sannomiya area, which is not very big but full of attractions. In addition to visiting the bay area where you can experience living in a coastal town, you may also go to Kitano Ijinkan street, where has a lot of modern western-style mansions. We also recommend you to visit the art galleries and museums around. If you want to try some authentic Chinese food, Nankin-machi, one of the biggest Chinatown in Japan, is where you should go. Besides that, Kobe also provides you with the experience of Western food culture and Western sweets. ▼Click here▼ First Time in Kobe. 21 Best Things to Do! Sightseeing, Spots, Dining, Model Course Mt. Rokko is the perfect spot to see the entire city of Kobe. Take the cable car to the mountaintop and enjoy the fabulous city view surrounded by beautiful nature. Also, it is close enough to Osaka that you can easily plan it as a one-day trip. Mt. Rokko offers the best night view of Kobe and in the daytime there is chance to see Osaka from afar. In addition, the mountaintop also has a photogenic observatory, a botanical garden, an athletic park, BBQ area and a ranch where not only adults, but children can enjoy themselves. From spring to autumn, the mountain area is covered by alpine plants. A large-scale of art exhibition is held every autumn. During winter, Rokko ski resort is open during the daytime and it is the closest ski resort from Osaka. If you get tired, the famous Arima hot spring is accessible by ropeway from the mountaintop. ▼Click here▼ Mt. Rokko tourist guide Arima Onsen has been known as one of the three best hot springs in Japan, including two popular gold and silver hot spring. It is highly recommended for a one-day trip from Osaka. Besides the hot spring, you can find some authentic Japanese food and taste the famous “carbonated rice crackers”. Walk along the street slowly and enjoy the traditional atmosphere. If you are looking for a cost-effective way to go by railway. Arima hot spring is now offering two kinds of package tickets, both of which includes a one-day railway pass and hot spring ticket. Hankyu expressway bus offers direct access to Arima hot spring and is also highly recommended. ▼Click here▼ Arima Onsen Taikou-no-yu Package Tickets ▼Check out this article!▼ Arima Onsen-1 Day Trip|Enjoy Hot Springs, Gourmet, and Nature! The 10 best food and sweets in Arima Onsen Town Himeji Castle is designated as world cultural heritage and national treasure. It is also called “White Heron Castle” because of its unique wings-shaped rooftop. The main donjon was built in 1609 and keeps showing its beauty to people from all over the world till now. At night, you can see different colors of light up in different season. Himeji Castle was built with strong defensive system in the past. If you want to have an immersive experience, use the AR and CG provided by Himeji Castle. ▼Check out this article!▼ 5 castles in Osaka, Kyoto and Hyogo. From World Heritage Sites to the Newest Castles, Places to Visit for Sightseeing Kinosaki Hot Spring has been loved by great writers from the past. Many tourists choose to stay overnight and enjoy the calm atmosphere, but a one-day trip is also possible if you departure early in the morning. 7 different public baths are provided and take your time to enjoy the street. Walking along the river full of elegant willow trees, you can see a lot of people dressed in Japanese traditional yukata and going on a tour of all baths. When snow falls in winter, you can enjoy the indescribable breathtaking scenery during the bath. Also, Kinosaki hot spring town is famous for fresh fish cuisine due to its seaside location. Snow crab is their specialty and you don’t want to miss that. Awaji Island is a leisure spot that is becoming increasingly popular in west Japan. Island bus is provided for those who want to go around the island by public transportation. Awaji island has not only one of the oldest shrines in Japan, but also delicious sea food and chic cafes in which you can enjoy the spectacular view of the ocean and sky. In addition, you can find a roadside station which has Awaji specialties and souvenirs beside Akashi-Kaikyo Bridge, the main bridge connecting Awaji Island and mainland. On the way back, you can also choose to take Awaji Jenova line ferry instead of railway. Besides, the leisure area Awaji Yumebutai designed by world-famous architect Tadao Ando has the perfect location overlooking Osaka Bay. This terrific architecture puts nature elements and the modern world together. ▼Click here▼ This is the place to go! An overwhelmingly beautiful architectural spot that harmonizes with the nature of Awaji Island! When it comes to sightseeing in Japan, Kyoto is one of the best places to experience Japanese culture and it only takes 50 minutes to go from Osaka. Now sightseeing express railway “Kyo-Train Garaku” is run together with Hankyu railway. Japanese-style interior is popular among travelers. Passengers just need to pay the regular fee and no reservation is required. For your information, Kyo-Train Garaku is available only on weekends and holidays. ▼Click here▼ “Kyo-train Garaku” Ride Guide ▼Check out this article!▼ Must-visit! 12 World Heritage Sites in Kyoto Arashiyama Sightseeing Guide Nishiyama area is an undiscovered sightseeing spot in Kyoto. In additional to its astonishing nature, Nishiyama area is very close to Osaka. This area has shrines such as Yoshiminei Temple, where you can overlook the whole city area along the mountain road, and Yanagidani Kannon Temple, which is famous for its hydrangeas and Hana-chouzu (the arrangement of flowers and plants on the surface of a water basin). In addition, “Kyoto City Rakusai Bamboo Forest Park” and “Bamboo Path” are more expansive than Arashiyama’s “Bamboo Forest Path” and are good places to hole up. There are also experience facilities such as “Suntory Yamazaki Distillery” known worldwide as one of the “Japanese Whiskey” and “Suntory <Natural Water Beer Factory> Kyoto”. ▼Click here▼ Kyoto Nishiyama|An undiscovered sightseeing spot in Kyoto! Amanohashidate is one of the three best views in Japan, locating in north Kyoto. It has a unique landform with about 6,700 pine trees growing on the reef approximately 20m to 170m wide and 3.6km long created over thousands of years by nature force. Its large undulating shape has long been compared to that of a descending dragon. In addition to walking through Amanohashidate or viewing it from a boat, the view from the observation deck is especially recommended. There is a standard way to enjoy viewing Amanohashidate. Stand with your back to Amanohashidate, bend at the waist and look at Amanohashidate from between your legs. You may be able to see a dragon aiming for the sky while the world is upside down. ▼Click here▼ 【Kyoto】Amanohashidate Travel Guide|Access, Attractive Points, Ine Town and More! Miyama-cho, Nantan city, Kyoto prefecture is a ‘country town’ where still retains peaceful rural atmosphere and traditional houses with thatched rooftops. It takes about 3 hours to go from Osaka city so it can be visited as a one-day trip destination. If you want to have a deep experience of traditional culture of Miyama-cho, we recommend participating in tours such as cycling, mochi pounding, and the ‘half-day home visit’ where you can get a glimpse of the local lives. All sightseeing related information can be found at Kyoto Tamba Kogen Quasi-National Park Visitor Center. English is available at the visitor center. ▼Click here▼ Why is Miyama-cho, Kyoto recommended for overseas tourists? Nara, a city with a long-established culture, used to be the capital city of Japan in 710. The capital Heijo-kyo was built at the site of present-day Nara city and is designated as World Cultural Heritage, together with Todai-ji Temple, Kasuga-taisha Shrine and Yakushi-ji Temple. In particular, Todai-ji Temple has the famous Buddha statue known as the ‘Great Buddha of Nara’. Daibutsu-den, where the Buddha statue is, has been rebuilt and is one of the largest wooden structures in the world. Moreover, Nara is famous for its wild deer which are designated as national monument. Deer in Nara can be seen along the street and they would get close to tourists, making it a rare scene of people and wild animals coexisting in the city. ▼Check out this article!▼ Enjoy the Great Buddha of Nara, the pride of Japan’s World Heritage and power spot Biwako Valley is an activity area built on the top of the mountain with an altitude of about 1,100m to the west of Biwako Lake, the biggest freshwater lake in Japan. The attraction of Biwako Valley is the magnificent panorama of Lake Biwa! Take the ropeway at the bottom of the mountain for 5 minutes and you can enjoy the whole view of the terrific Biwako Lake. Chances are that you may also see Osaka, Kyoto and even the 3,000m mountains from the terrace. At the main view spot Biwako Terrace, you can find sofas and chairs set on a wide wooden deck where you can fully relax yourselves. For those who likes thrilling activities, zipline is available at the mountaintop and there are also athletic facilities called Skywalker for both children and adult. What’s more, ski resort is open during winter and is the perfect place to go for ski and snowboard lovers. Have you found a good place for a day trip? Enjoy! OSAKA KYOTO KOBE” provides useful information for visitors to Japan visiting the Kansai region. Be sure to check out the latest trendy tourist spots and unknown hidden gems!
-
7 สถานที่ชมดอกวิสทีเรียอันโด่งดังในภูมิภาคคันไซ จุดที่มีดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิสีม่วง
ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นเป็นฤดูแห่งดอกไม้! หลายคนอาจนึกถึงดอกซากุระเมื่อนึกถึงดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น แต่ดอกวิสทีเรียเป็นดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยและยังถูกเขียนถึงในบทกวีวากะด้วยซ้ำ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกอิสเตเรียคือหลังจากดอกซากุระร่วงหมดแล้ว แม้ว่าดอกซากุระจะผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นที่เราอยากให้ผู้มาเยือนได้เห็น! *ต้องเสียค่าเข้าชมและสักการะเพื่อเข้าชมบางจุด สำหรับรายละเอียด โปรดตรวจสอบจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแต่ละสถานที่ -INDEX- [โอซาก้า, Fukushima-ku] สวนชิโมฟุกุชิมะ ฯลฯ [โอซาก้า, ฮิกาชิซูมิโยชิ] สวนพฤกษศาสตร์นาไก [ทั Takarazuka-ชิ, เฮียวโกะ] วัดนากายามาเดระ [เกียวโต, อุจิ] วัดเบียวโดอิน [เกียวโต, ฟูชิมิ] Jounangu [นารา] ดอกวิสทีเรียของศาลเจ้าคาสึกะไทชะสามารถพบเห็นได้แม้ในใจกลางเมือง พื้นที่ Fukushima-ku และ Noda ใกล้กับย่าน Umeda ของโอซาก้า เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับต้นฟูจิมาเป็นเวลาประมาณ 600 ปี ที่นี่ยังเป็นที่มาของชื่อดอกวิสทีเรียในภาษาญี่ปุ่น (ฟูจิ) คือ "nodfuji" ดอกวิสทีเรียของ Noda ถูกกวาดล้างเกือบทั้งหมดในการโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่แล้วด้วยความพยายามของชาวท้องถิ่น ดอกไม้จะบานทุกปีใน 29 แห่งในเขตวอร์ด รวมถึงสวนสาธารณะและสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สวนสาธารณะชิโมฟุคุชิมะมีโครงบังตาวิสทีเรียมากที่สุดในเขตวอร์ดและคุ้มค่าแก่การไปชม พลาซ่าหน้าสถานี Hanshin Noda ก็งดงามเช่นกัน โดยมีความตัดกันอย่างน่าอัศจรรย์ระหว่างเฉดสีม่วงของดอกวิสทีเรียและภูมิทัศน์ในเมือง ช่วงเวลาชมปกติ: กลางเดือนเมษายน ดอกไม้สีฟ้าและสีม่วงอ่อนที่ “สวนพฤกษศาสตร์นาไก” เข้ากันได้อย่างลงตัวกับภาพถ่าย Nemophila ซึ่งเป็นดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิยอดนิยมในญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บานสะพรั่งไปทั่ว Life Garden ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร ถัดจากนั้นในช่วงกลางเดือนเมษายน ดอกโนดาฟูจิ (ดอกวิสทีเรีย) จะบานสะพรั่งด้วยดอกไม้สีม่วงอ่อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมดอกไม้ยอดนิยมทั้งหมดในคราวเดียว สวนพฤกษศาสตร์ Nagai อยู่ห่างจาก Umeda, Shinsaibashi และ Namba เพียง 1 สถานีเมื่อเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากใจกลางเมือง และนักท่องเที่ยวสามารถพบกับพืช ต้นไม้ และดอกไม้นานาชนิดตลอดทั้งปี พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งถาวรยามค่ำคืน “Team Lab Botanical Garden Osaka” ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน! ▼ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่▼ ไฮไลท์และกิจกรรมน่าสนใจที่ teamLab Botanical Garden Osaka ช่วงเวลาชมปกติ: กลางเดือนเมษายน (ดอกเนโมฟีลา: กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม) ไม่มีใครรู้สึกประทับใจเมื่อเห็นดอกวิสทีเรีย ที่วัดเบียคุโกจิ! ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาทีจากสถานีโอซาก้าไปยังวัดเบียคุโกจิโดยรถไฟและรถแท็กซี่ แต่ทิวทัศน์นั้นงดงามมากจนทำให้คุณพูดไม่ออก บาทหลวงคนก่อนได้ปลูกดอกวิสทีเรียหลากหลายสายพันธุ์นี้เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว และดอกวิสทีเรียจะมีความยาวมากกว่า 1 เมตร โครงสร้างบังตาที่เป็นช่องวิสทีเรียมีปริมาณมาก เนื่องจากถูกจัดวางเป็นรูปตัว L บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 120 เมตร ดอกวิสทีเรียร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน ในเวลากลางคืนพื้นที่จะมีการส่องสว่าง ดอกวิสทีเรียที่ส่องสว่างราวกับแสงออโรร่าที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ช่วงเวลาชมปกติ: ต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม วัดนาคายามะเดระมีชื่อเสียงในด้านความอุดมสมบูรณ์และการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย ตั้งอยู่ใน Takarazuka ซึ่งมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมา “โฮชิ โนะ ฮิโรบะ” มีโครงบังตาที่เป็นช่องวิสทีเรียยาว 80 เมตรในบริเวณวัด และตั้งแต่กลางถึงปลายเดือนเมษายน ดอกวิสทีเรียจะบานสะพรั่งเต็มที่ ดอกวิสทีเรียสีม่วงนั้นพบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่วัดนาคายามะเดระนั้นมีลักษณะพิเศษคือดอกวิสทีเรียสีขาว หากคุณมาเยี่ยมชมในวันที่อากาศแจ่มใส จะดูเหมือนเมฆลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม! กลิ่นหอมหวานของดอกวิสทีเรียยังหอมฟุ้งไปในอากาศ เวลาในการชมปกติ: กลางถึงปลายเดือนเมษายน ห้องโถงฟีนิกซ์เบียวโดอิน สร้างขึ้นในปี 1053 เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงซึ่งปรากฏบนเหรียญ 10 เยน และเป็นจุดที่ต้องไปชมหากคุณมาเยือนเกียวโตในฐานะนักท่องเที่ยว สวนเบียวโดอินซึ่งมีดอกไม้ตามฤดูกาล พร้อมด้วยศาลาฟีนิกซ์ที่สร้างขึ้นกลางสระน้ำและทิวทัศน์ของภูเขาที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสระน้ำ ถือเป็นภาพสวรรค์ที่ผู้คนจินตนาการถึงเมื่อสร้างวัด ในฤดูใบไม้ผลิ บ่อน้ำจะเต็มไปด้วยดอกวิสทีเรียที่เบ่งบาน ซึ่งเข้ากันได้อย่างสวยงามกับห้องโถงฟีนิกซ์อันงดงาม ที่นี่เป็นสถานที่ที่ราวกับสวรรค์อย่างแท้จริงพร้อมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอันหรูหราที่ไม่ควรพลาด ช่วงเวลาชมปกติ: กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม โจนันกุเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ตามฤดูกาล ภายในบริเวณวัดมีสวนอยู่ 5 แห่ง และทุกปีจะมีสีสันของดอกวิสทีเรียในสวน "มุโรมาจิ โนะ นิวะ" ซึ่งเป็นสวนที่มีสวนทรงกลมพร้อมสระน้ำ ในฤดูใบไม้ผลิ มีอะไรให้ชมมากมาย ไม่เพียงแต่ดอกวิสทีเรียเท่านั้น แต่ยังมีต้นยามาบุกิและอาซาเลียที่บานสะพรั่งในเวลาเดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการแสดง “วิสทีเรีย มิโกะ คากุระ” (เข้าชมฟรี) โดยที่ศาลเจ้าหญิงสาวถือกิ่งวิสทีเรียในมือและสวมมงกุฎด้วยดอกวิสทีเรียทำการแสดงเต้นรำคางุระ และหากคุณได้รับ “เสน่ห์ของดอกวิสทีเรีย” ” หญิงสาวในศาลเจ้าจะชำระคุณด้วยระฆังคางุระ (1,000 เยนต่อเครื่องราง) นี่คือจุดที่นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่สามารถชื่นชมดอกไม้เท่านั้น แต่ยังเพลิดเพลินไปกับ “ประสบการณ์” ช่วงเวลาชมปกติ: ปลายเดือนเมษายน Wisteria Miko Kagura: วันละสองครั้ง เวลา 10.00 น. และ 15.00 น. ในวันที่ 1-6, 11, 12, 18, 19, 25 และ 26 พฤษภาคม 2567 ศาลเจ้า Kasuga-taisha เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญของนารา สถานที่ท่องเที่ยวที่มีศาลาศาลเจ้าที่สวยงามทาสีแดงสดและถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลก ดอกวิสทีเรียเป็นดอกไม้ที่สำคัญของศาลเจ้าคะสุงะ ไทฉะ และยังใช้เป็นยอดของศาลเจ้าอีกด้วย ดอกวิสทีเรียเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติทั่วบริเวณศาลเจ้า และ “วิสทีเรียแห่งสุนาซูริ” ที่เขตรักษาพันธุ์หลักเป็นที่รู้จักในฐานะต้นไม้ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ดอกไม้และพืชประมาณ 300 สายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับมันโยชู กวีนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้รับการปลูกในสวนพฤกษศาสตร์มันโยชู ซึ่งมีดอกวิสทีเรียประมาณ 200 ดอกจาก 20 สายพันธุ์ที่ปลูก ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความแตกต่างในด้านรูปร่างและขนาด และสีของดอกขึ้นอยู่กับพันธุ์ ช่วงเวลาชมปกติ: กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ตั้งแต่สมัยโบราณ คนญี่ปุ่นไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล คุณไม่คิดว่าดอกไม้วิสทีเรียที่สง่างามและสง่างามนั้นเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์แห่งความกลมกลืนของญี่ปุ่นใช่หรือไม่ โปรดเยี่ยมชมจุดที่คุณสามารถชมทิวทัศน์สไตล์ญี่ปุ่นของดอกวิสทีเรียได้
หมวดหมู่
ตารางการเดินทาง
*กำหนดการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา