หากคุณกำลังจะไปเที่ยวโกเบ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด
มีตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร่วมพิพิธภัณฑ์เครื่องมืองานช่างไม้ และงานอาร์ทที่ผสมผสานกับธรรมชาติ เมืองโกเบมีพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายมากมายที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็ตาม

*โปรดไปที่หน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิทรรศการ

1. Hyogo Prefectural Museum of Art

Hyogo Prefectural Museum of Art ได้รับการออกแบบโดย Tadao Ando ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยมีพื้นที่อันกว้างขวางและแสงธรรมชาติที่สวยงาม
การผสมผสานระหว่างผนังคอนกรีตและกระจกของอาคารทำให้ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ คุณสามารถเพลิดเพลินกับงานศิลปะในบรรยากาศที่ผ่อนคลายในห้องโถงกลางและห้องจัดแสดงแบบเปิดโล่ง
ชั้นสองเป็นพื้นที่ที่เรียกว่า Ando Gallery ที่แสดงโมเดลสถาปัตยกรรมและภาพวาดของอาคารที่ Ando เคยทำงานอยู่

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผลงานจัดแสดงกว่า 10,000 ชิ้น รวมถึงผลงานของศิลปินที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดเฮียวโก นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการพิเศษที่เปิดตัวเทรนด์ศิลปะร่วมสมัยอีกด้วย

・รองรับภาษาต่างประเทศ: มีคำบรรยายภาษาอังกฤษที่ Ando Gallery และโบรชัวร์ภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี
・โปรดทราบ: ห้ามถ่ายภาพในนิทรรศการพิเศษ รวมถึงผลงานใดๆ ที่มีสัญลักษณ์ “No camera”” อยู่ข้างๆ

▼ตรวจสอบบทความเหล่านี้▼
6 อาคาร Tadao Ando ที่คุณควรไปเยี่ยมชมในโอซาก้า เกียวโต และโกเบ
นี่คือสถานที่ที่ต้องไป! สถานที่ทางสถาปัตยกรรมอันสวยงามตระการตาที่กลมกลืนกับธรรมชาติของเกาะ Awaji!

2. Kobe City Museum

พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่อดีตนิคมชาวต่างชาติในเมืองโกเบ เพื่อปรับปรุงพื้นที่ที่เคยเป็นสำนักงานสาขาโกเบของธนาคาร Yokohama Specie Bank ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1935 และเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่ Hanshin

Kobe City Museum มีนิทรรศการถาวรที่มีชิ้นงานจัดแสดงกว่า 70,000 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของโกเบและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการพิเศษเป็นระยะๆ เช่น “Ghibli Park and Ghibli Exhibition” และนิทรรศการผลงานของ Higashiyama Kaii หนึ่งในจิตรกรผู้โด่งดังในสมัยโชวะ
ร้านคาเฟ่ชั้น 1 เป็นแหล่งขายขนมและเครื่องดื่มในบรรยากาศย้อนยุคคลาสสิก

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายผลงาน: ญี่ปุ่น/อังกฤษ
โบรชัวร์: ญี่ปุ่น/อังกฤษ/เกาหลี/จีนตัวย่อ/จีนตัวเต็ม

3. Rokko-Shidare Observatory

หากคุณอยากเข้าใกล้ศิลปะในเมืองโกเบ แนะนำให้ไปที่ Rokko-Shidare Observatory!

Rokko-Shidare แลนด์มาร์กของภูเขา Rokko เป็นหอสังเกตการณ์รูปโดมที่ออกแบบให้ดูเหมือนต้นไม้ใหญ่ สามารถถ่ายรูปสวยๆ โดยมีทิวทัศน์แบบพาโนรามาจากระดับความสูงสูงสุด 888 เมตรเป็นฉากหลัง

ในเวลากลางคืน บริเวณนี้จะมีการเปิดไฟส่องสว่าง สร้างบรรยากาศราวกับอยู่ในความฝันที่แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างชัดเจน เมื่อมองไปรอบๆ คุณจะได้สัมผัสถึง “วิวค่ำคืนหลักล้าน” อยู่ตรงหน้าคุณ
นอกจากนี้อย่าลืมไปดูนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ Shidare ด้วยนะ!

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำอธิบายภาพ: ญี่ปุ่น
โบรชัวร์: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ

[ข้อควรระวัง]
・งดนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานที่หอสังเกตการณ์
・ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม
・ไม่รับ: Arima-Rokko 1-Day Passport หรือ KOBE Kanko Smart Passport (Basic Plan)

4. Kobe Rokko Meets Art

เทศกาลศิลปะร่วมสมัย Kobe Rokko Meets Art จัดขึ้นทุกปีและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในปี 2024 เทศกาลศิลปะร่วมสมัย Kobe Rokko Meets Art จะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

Rokko Meets Art จัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ บนภูเขา Rokko เช่น Chapel of the Wind ที่ออกแบบโดย Tadao Ando ซึ่งปกติแล้วจะปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าชม และบริเวณ Trail ผลงานของศิลปินหน้าใหม่จะกลมกลืนไปกับธรรมชาติและสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับท่านที่เข้าชม หากคุณต้องการชมผลงานทั้งหมด เราขอแนะนำให้ใช้เวลาทั้งวันในการชม เนื่องจากผลงานเหล่านี้จะกระจัดกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆ

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายผลงาน: หลายภาษาโดยการสแกนรหัส QR ที่ให้ไว้
แผนที่แนะนำ: มีแผนที่จะเผยแพร่เวอร์ชันภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์

▼ตรวจสอบบทความเหล่านี้▼
ROKKO MEETS ART 2023 beyond | เพลิดเพลินกับธรรมชาติและศิลปะร่วมสมัย

ตรวจสอบบทความนี้เพื่อดูข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมบน Mt.Rokko
สรุปข้อมูลท่องเที่ยว Mt.Rokko

นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไป Arima Onsen ซึ่งเป็นหนึ่งในสามบ่อน้ำพุร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นได้จากภูเขา Rokko ได้ด้วยกระเช้า Rokko Arima Ropeway!

▼ตรวจสอบบทความเหล่านี้▼
Arima Onsen - ทริป 1 วัน｜เพลิดเพลินกับออนเซ็น อาหาร และธรรมชาติ!
10 อันดับ อาหารและขนมอร่อยๆ ในเมือง Arima Onsen

5. Takenaka Carpentry Tools Museum

Takenaka Carpentry Tools Museum เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องมืองานช่างไม้แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น มีคอลเลกชันเครื่องมือและวัสดุมากกว่า 30,000 ชิ้นที่ใช้ในการก่อสร้างไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานฝีมือแบบดั้งเดิมของช่างฝีมือและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณจะได้ดื่มด่ำกับความงามอันประณีตของงานช่างไม้แบบดั้งเดิมผ่านนิทรรศการมากมาย ซึ่งรวมถึงโมเดลร้านน้ำชาขนาดเท่าของจริงที่เรียกว่า “Skeleton tea room” และโมเดล Toshodaiji-kondo สูง 7 เมตรที่น่าประทับใจในเมืองนารา

นอกจากระบบวิดีโอไกด์และเสียงแล้ว คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์เต็มรูปแบบได้โดยการดมกลิ่นและสัมผัสไม้ ในอาคารที่อยู่ติดกันมีห้องพักผ่อนพร้อมสวนหินเล็กๆ ที่แสดงงานฝีมือแบบดั้งเดิม
ในส่วนของกิจกรรมเวิร์คช็อปการทำไม้ยอดนิยมนั้น คุณควรตรวจสอบข้อมูลรายละเอียด เช่น เวลาทำการและเงื่อนไขต่างๆ ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายผลงาน: บางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ
มีวิดีโอ/ออดิโอไกด์ให้บริการในภาษาญี่ปุ่น/อังกฤษ/จีน/เกาหลี
โบรชัวร์: ญี่ปุ่น/อังกฤษ/จีน/เกาหลี

[ข้อควรระวัง]
ทัวร์อาจใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง

6. Kobe Mysterious Consulate of Trick Art

Kobe Mysterious Consulate of Trick Art ตั้งอยู่บนถนน Kobe Kitano Ijinkan ของเมืองโกเบได้กลายมาเป็นสถานที่ที่จะกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณ ให้ได้สนุกเพลิดเพลิน! และตอนนี้ที่นี่ก็ได้เริ่มโด่งดังในโซเชียลมีเดียแล้ว

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครใน Ijinkan ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมภาพวาดและสัมผัสกับผลงานที่ผสมผสานกับภาพลวงตาได้ โดยเฉพาะ Kobe Original Series ซึ่งเป็นคอลเลกชันผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของโกเบ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ตั้งแต่การถูกเนื้อสเต็กโคเบะชิ้นใหญ่ทับจนแบน ไปจนถึงหอคอยโกเบที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากกรอบรูป ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่สนุกสนานสำหรับทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม อย่าลืมพกกล้องติดตัวไปถ่ายรูปสวยๆ ไว้ด้วยล่ะ!

[รองรับภาษาต่างประเทศ] ภาษาญี่ปุ่น
[หมายเหตุ] นักท่องเที่ยวจะได้รับการแนะนำเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

7. พิพิธภัณฑ์การเดินเรือ Kobe Maritime

พิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบมีหลังคาขนาดใหญ่พร้อมโครงสร้างพื้นที่สีขาวที่ชวนให้นึกถึงเรือใบ และยังตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Meriken Park อีกด้วย

ที่พิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจโครงสร้างของเรือ เสน่ห์ของเรือสำราญ และเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเรือผ่านประสบการณ์จริงและการฉายแผนที่

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายนิทรรศการ: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ
คุณสามารถอ่านและฟังคำบรรยายของพิพิธภัณฑ์ได้ในภาษาอังกฤษ เกาหลี และจีน โดยใช้แอปฟรี “T-VOIX”
โบรชัวร์: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ/ภาษาเกาหลี/ภาษาจีนตัวย่อ

8. Kawasaki Good Times World

Kawasaki Good Times World ตั้งอยู่บนชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ Kobe Maritime Museum เป็นพิพิธภัณฑ์องค์กรที่ผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสกับเทคโนโลยีของ Kawasaki Heavy Industries Group ผู้ผลิต เรือ รถไฟ เครื่องบิน และมอเตอร์ไซค์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

เมื่อเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ คุณจะได้พบกับรถจักรยานยนต์ Kawasaki อันทรงคุณค่าจากรุ่นต่างๆ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าไปชมที่นั่งคนขับของรถไฟชินคันเซ็น Series 0 ของจริงและห้องโดยสารของเฮลิคอปเตอร์ได้อีกด้วย และบางครั้ง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อาจมีงานกิจกรรมต่างๆ จัดขึ้นเพิ่มเติมเช่นกัน

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายนิทรรศการ: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ
โบรชัวร์: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ/ภาษาเกาหลี/ภาษาจีนตัวย่อ

9. พิพิธภัณฑ์ Kobe Fashion

พิพิธภัณฑ์ Kobe Fashion มีคอลเลกชันแฟชั่นมากมาย โดยคอลเลกชันนี้มีทั้งสิ่งทอ ชุดเดรส ภาพถ่ายแฟชั่น และสิ่งของมีค่าอื่นๆ ที่จะมาจัดแสดงในบางช่วงเวลา

ในห้องสมุดชั้น 3 นักท่องเที่ยวสามารถอ่านนิตยสารแฟชั่นของต้นศตวรรษที่ 20 และตีความเทรนด์และวัฒนธรรมของแต่ละยุคผ่านแฟชั่นที่สะท้อนสังคมได้
นอกจากแฟชั่นแล้ว นิทรรศการพิเศษที่นำเสนอผลงานศิลปะหลากหลายประเภท เช่น ภาพประกอบและภาพอุคิโยะเอะ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ "ลองสวมชุดเสมือนจริง" 18 ชุด ซึ่งรวมถึงชุดราชสำนักในศตวรรษที่ 18 และชุดชาติพันธุ์ ซึ่งนำมาทำเป็นข้อมูลเพื่อเป็นของที่ระลึกจากการเดินทาง (ระยะเวลาจำกัด)

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
โบรชัวร์: ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น (มีภาษาอังกฤษสำหรับนิทรรศการคอลเลกชัน)

10. Yokoo Tadanori Museum of Contemporary Art

วัตถุประสงค์หลักของ Yokoo Tadanori Museum of Contemporary Art คือการรักษาคอลเลกชันผลงานของ Yokoo Tadanori ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่เกิดใน Hyogo การแสดงออกอย่างมีสีสันและอิสระของ Yokoo ทำให้เขามีชื่อเสียงในระดับโลก

นอกเหนือจากนิทรรศการหลากสีสันแล้ว พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีคอลเลกชันของ Yokoo อีกมากมาย รวมถึงหนังสือเก่า แผ่นเสียงไวนิล รูปปั้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และผลงานของศิลปินบางชิ้น
จุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจุดหนึ่งในพิพิธภัณฑ์คือผลงาน “Cu-mirror-ism to Aotani” ผลงานนี้ประกอบด้วยกระจกและภาพถ่าย และภาพเชิงเขามายาจากนอกหน้าต่างสะท้อนลงบนกระจกรูปทรงไม่สม่ำเสมอในจุดลึกลับนี้

นอกจากนี้อาคารพิพิธภัณฑ์ยังเป็นอาคารคอนกรีตโครงเหล็กสูง 4 ชั้นที่ออกแบบโดย Togo Murano สถาปนิกชาวญี่ปุ่นผู้สร้างอาคารชื่อดังมาแล้วหลายแห่ง ได้ยินแบบนี้แล้วก็ต้องไปชมให้ได้!

[รองรับภาษาต่างประเทศ]
คำบรรยายนิทรรศการ: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ
โบรชัวร์: ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาอังกฤษ จนถึงเดือนมีนาคม 2025

ข้อมูลการเดินทางของเมืองโกเบ

โกเบยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย!
Enjoy! OSAKA KYOTO KOBE ขอแนะนำคอร์สท่องเที่ยวตัวอย่าง สถานที่แนะนำ และอาหารอร่อยๆ ในโกเบ หวังว่าบทความต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางของคุณ

21 สิ่งที่ควรทำ! ครั้งแรกในโกเบ เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ร้านอาหาร คอร์สตัวอย่าง

โกเบทริป 1 วัน｜เพลิดเพลินไปกับโกเบเมืองท่าสุดทันสมัย

10 ของกินอร่อยๆ ในโกเบ! อาหารพื้นเมืองและอาหารท้องถิ่นที่แนะนำโดยคนในพื้นที่