รถไฟ Hanshin วิ่งจากโอซาก้าไปยังเมืองริมทะเลอย่างโกเบ ทั้งยังมีร้านอาหารอร่อยและสถานที่น่าเที่ยวมากมายตลอดแนวสาย Hanshin

เมือง Nishinomiya และโกเบเป็นที่ตั้งของ Nada Gogo ดินแดนแห่งเหล้าสาเก และสาเกที่ผลิตจากที่นี่ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นมาช้านาน ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหารรสเลิศตลอดแนวสายรถไฟโดยเน้นเมนูสาเก แม้แต่ใครที่พึ่งเริ่มต้นดื่มสาเกก็สามารถเพลิดเพลินได้!

Nada Gogo Sakedokoro เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2022 เป็นสถานที่ส่งเสริมวัฒนธรรมสาเกของ Nada Gogo โดยโรงหมักสาเกอายุกว่า 500 ปีได้รับการปรับปรุงใหม่มาเป็นร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มลองสาเก Nada Gogo และอาหารเมืองโกเบได้

ที่ Nada Gogo มีโรงหมักสาเกอยู่ 5 แห่ง ได้แก่ Nishi-go, Mikage-go, Uozaki-go, Nishinomiya-go และ Imazu-go โดยรวมสาเกจากโรงหมัก 26 แห่งไว้ ให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับสาเกจากทุกภูมิภาคได้ในคราวเดียว

เราขอแนะนำให้ลิ้มลอง “เซต Nada Gogo Sakedokoro” ซึ่งประกอบด้วยสาเกห้าประเภทและอาหารสามประเภท ในเซตจะมีสาเก Nada Gogo 5 ชนิดและเมนูอาหารตามฤดูกาล 3 จานเล็กซึ่งเข้ากันได้ดีกับสาเก
*เมนูสาเกและอาหารจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและฤดูกาล

อาคารหลังนี้เคยเป็นโรงหมักสาเกมาก่อน ถังหมักและสิ่งของอื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตสาเกจึงยังคงหลงเหลืออยู่ให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของนาดะ คุณยังสามารถชมจุดสังเกตต่างๆ จากภายในร้านอาหารได้อีกด้วย

ที่นี่เป็นร้านอาหารเล็กๆ ในย่าน Motomachi ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับเจ้าของร้านผู้รักการดื่มสาเกอุ่นๆ เจ้าของร้านจะแนะนำสาเกที่เข้ากับมู้ดของคุณที่สุด ใครที่พึ่งเริ่มดื่มสาเกจึงสบายใจได้ อีกทั้งการตกแต่งภายยังให้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

อาหารแต่ละจานของร้าน Setoka จะไม่มีการใส่น้ำตาลเพิ่มเลย ทั้งยังได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันให้รสชาติอ่อนโยนซึ่งขับความหวานของวัตถุดิบได้อย่างดี

Steak House La Peizan เป็นร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มลองเนื้อโกเบระดับ A5 เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษเช่นวันครบรอบ หรือฉลองวันเกิดกับคนที่คุณรัก

เพลิดเพลินกับเนื้อโกเบที่ดีที่สุดพร้อมแอลกอฮอล์ในบรรยากาศสไตล์ผู้ใหญ่

JHOICE Laboratory เสิร์ฟช็อกโกแลตแปลกใหม่ โดยคัดเลือกและจับคู่วัตถุดิบของญี่ปุ่นกับโกโก้จากทั่วโลก ภายในมีการตกแต่งดังห้องศิลป์ ที่แค่ย่างกรายเข้าไปก็รู้สึกราวกับได้เข้าสู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

ช็อคโกแลตของที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน โดยจะผสมผสานเครื่องปรุงญี่ปุ่นเข้ากับโกโก้ เช่น มิโสะRokkoกับโกโก้, องุ่นซันโชกับโกโก้, กระเทียมดำกับสตรอเบอร์รี่ และมะนาวsudachi กับกากสาเก เราขอแนะนำให้ลิ้มลองคู่กับเหล้าสาเก ซึ่งจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและเสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี

ถังสาเกเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการกลั่นสาเก โรงงาน Kiku-Masamune Sake Barrel Meister เป็นที่ที่ผู้เข้าชมสามารถชมเทคนิคการผลิตถังสาเกที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ สัมผัสเสน่ห์ของถังสาเก

ผู้เข้าชมสามารถสังเกตกระบวนการต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น การทำถังสาเกโดยไม่ต้องใช้ตะปู การรวมแผ่นไม้ซีดาร์โดยไม่มีช่องว่าง และการโกนด้านในของถังสาเกอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการรั่วซึมของสาเก

ถังสาเกมีลักษณะเด่นด้วยกลิ่นหอมของต้นซีดาร์ และคุณจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่แผ่ขยายออกไปทุกครั้งที่จิบ หากมีเวลาก็อย่าลืมแวะที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โรงหมักสาเก Kiku-Masamune ซึ่งอยู่ติดกับโรงงาน ซึ่งคุณสามารถดื่มและซื้อสาเกที่นี่ได้

Stand Hakusihka เป็นบาร์ที่มีดนตรีประกอบโดยศิลปินที่เกี่ยวข้องกับ Nishinomiya สาเก และแสงไฟนีออน บรรยากาศเหมือนคาเฟ่บาร์ที่นักดื่มหน้าใหม่ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้

เมนูของว่างให้มาในปริมาณที่ไม่เยอะ ทำให้คุณสามารถสั่งอาหารทานเล่นได้หลากหลาย เพลิดเพลินกับของว่างและจิบสาเก

เราได้แนะนำจุดที่คนไม่ค่อยรู้จักในพื้นที่แนะนำตามเส้นทางรถไฟฮัน Hanshin เมื่อคุณลงจากสถานี คุณจะได้พบกับร้านอาหารอร่อยและสถานที่น่าสนใจอย่างแน่นอน! ทำไมคุณไม่ลองนั่งรถไฟ Hanshin เพื่อค้นหาโลกใหม่ที่คุณไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง?