"ROKKO MEETS ART WALK 2022" ในโกเบ จุดท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและศิลปะ

2022/10/31
00_rokko_meetsart

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีงานเทศกาลศิลปะมากมายจัดขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น และก็ได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมรูปแบบใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม อุปสรรคอย่างหนึ่งของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติคือเรื่องการเดินทาง เพราะบางคนไม่สามารถขับรถไปยังสถานที่จัดงานได้ นอกจากนี้ก็ยังมีบางคนที่รู้สึกว่าไม่เข้าใจและไม่สามารถเข้าถึงงานศิลปะเหล่านี้ได้อยู่ด้วย แต่อุปสรรคเหล่านี้จะหมดไป หากคุณมาที่งาน “Rokko MEETS ART WALK” ที่จัดขึ้นบนภูเขา Rokko เมืองโกเบ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี! เพราะที่นี่สามารถเดินทางจากในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย และชิ้นงานศิลปะก็มีการผสมผสานทิวทัศน์ธรรมชาติเข้าไปด้วย ทำให้ผู้คนสามารถเข้าชมได้ทุกเพศทุกวัย หากคุณสนใจก็ตามมาอ่านบทความนี้และเตรียมตัวเที่ยวเยียวยาจิตใจไปกับงาน ROKKO MEETS ART WALK กันได้เลย!

มารู้จัก "ROKKO MEETS ART WALK" กันเถอะ

01_rokko_meetsart

เมื่อนึกถึงโกเบ หลาย ๆ คนก็มักจะนึกถึงท่าเรือกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งความจริงแล้ว ที่นี่ก็เป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและเป็นท่าเรือท่องเที่ยวที่สำคัญด้วย แต่นอกจากนี้ก็ยังมีภูเขา Rokko ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวคันไซมาอย่างช้านานด้วยเช่นกัน เพราะที่นี่มีทั้งวิวสวย ๆ ของทิวทัศน์ยามค่ำคืน และอยู่ใกล้กับน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงอย่าง “อาริมะออนเซ็น” นั่นเอง

 

งาน “ROKKO MEETS ART WALK 2022” ครั้งที่ 13 ในปีนี้ก็ไม่ได้ต่างกับ Mt. Rokko ในฤดูใบไม้ร่วงเลย เพราะในแต่ละปี เทศกาลศิลปะนี้จะใช้สิ่งก่อสร้างบนภูเขา Rokko เป็นเวที และจัดงานแบบผสมผสานภูมิประเทศและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเข้าไปด้วย คุณจึงสามารถพบกับเสน่ห์ใหม่ ๆ ของภูเขา Rokko ที่ไม่เหมือนกับงานเทศกาลศิลปะอื่น ๆ ได้ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมชม (งานอีเวนต์) นอกจากนี้ ภัณฑารักษ์ก็จะเชิญศิลปินมาสร้างสรรค์ผลงาน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถสมัครมาได้ด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบ Rokko และอยากสร้างสรรค์ผลงานขณะที่มาเยือนที่นี่แล้วล่ะก็ คุณอาจจะได้จัดแสดงผลงานนี้ในอนาคตก็ได้นะ!

วิธีเดินทางไปและวิธีเดินทางภายในสถานที่

มุ่งหน้าสู่ภูเขา Rokko

02_rokko_meetsart
03_rokko_meetsart

ภูเขา Rokko ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ทั้งจาก "ย่านซันโนะมิยะ" ใจกลางเมืองโกเบ และ "ย่านอุเมดะ" จังหวัดโอซาก้า จากสถานีเหล่านี้ คุณสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส Kobe City Bus หมายเลข "16" หรือ "106" แล้วไปลงที่ป้าย "สถานีร็อคโคเคเบิลคาร์ชั้นล่าง" (Rokko Cable Car Lower Station) ได้ จากนั้นก็เดินขึ้นเขาไปอย่างง่าย ๆ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น

 

    ● รถไฟ Hankyu Railway สถานี Rokko

    ● สถานี Rokkomichi ของรถไฟ JR 

    ● สถานี Mikage ของรถไฟ Hanshin Electric Railway

     

    เนื่องจากภูเขา Rokko อยู่ใกล้กับ “อาริมะออนเซ็น" (Arima Onsen) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เราจึงอยากแนะนำให้คุณใส่มันเข้าไปในแผนการเดินทางของคุณก่อนหรือหลังเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ด้วย และนอกจากนี้ ก็ยังมีรถกระเช้า "Rokko Arima Cable Car" ที่น่าแวะไปด้วยเช่นกัน

    การเดินทางไปยังพื้นที่ส่วนต่าง ๆ 

    04_rokko_meetsart
    05_rokko_meetsart

    นั่ง ร็อคโคเคเบิล ไปจนถึงที่สถานี "Rokko Cable Sanjo Station" จากนั้นก็เปลี่ยนไปขึ้นรถบัสที่เชื่อมไปสู่โถงจัดแสดงซึ่งมีทั้งหมด 3 จุด:

     

    ● Rokko Sanjo Bus (สายหลัก)

     

    แผนที่เส้นทางโดยละเอียด สามารถติดตามได้ในเว็บไซต์หลัก:

    https://www.rokkosan.com/top/access/

    6 จุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์

    06_rokko_meetsart

    ROKKO MEETS ART WALK 2022 ประกอบด้วยสถานที่ 10 แห่ง ซึ่งแบ่งเป็น 6 ส่วนย่อย (ตามเส้นประสีเขียวด้านบน) ที่ใต้แผนที่จะมี "01 ร็อคโคเคเบิล" เป็นจุดลงรถสำหรับร็อคโคเคเบิลบนภูเขา ดังนั้น เราจึงขอใช้ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นและจะนำทางคุณเดินไปตามเข็มนาฬิกา ผ่านจุดไฮไลท์และผลงานอันน่าประทับใจในพื้นที่แต่ละส่วน

    1. ภาพวิวจาก Sky Terrace บนภูเขา ROKKO (01 ร็อคโคเคเบิล)

    07_rokko_meetsart

    ที่มาของรูปภาพ: PIXTA

    ทันทีที่คุณลงจาก "Rokko Cable Sanjo Station" ก็จะได้พบกับงานศิลปะอันดับ 1 ของปีนี้ โดยทางศิลปินได้ทำป้ายรูปคนที่มีรูสำหรับโผล่หน้าจำนวนมากมาตั้งไว้ ให้คุณได้ตามไปชมในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อีกทั้งยังมีภาพวาดที่ดูตลกน่ารัก มาพร้อมกับตัวละครที่เขาออกแบบเองอย่าง "Rokko Boy" ที่คอยดึงดูดผู้คนมากมายให้ตามมาถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานด้วย

    08_rokko_meetsart

    Heroshi NAKYAMERA 《六甲KAOHAMEトライアングル2022》

    ในสถานีมีทั้งศูนย์บริการและตู้เก็บสัมภาระ อีกทั้งยังมีคาเฟ่ที่ชื่อ TENRAN CAFE อยู่บนชั้น 3 ด้วย ภายในร้านมีลานชมวิวที่คุณสามารถชมทัศนียภาพของเมืองโกเบได้โดยไม่มีอะไรมาบดบังสายตา จากนั้นก็ออกไปขึ้นรถบัสที่นอกสถานีเพื่อไปยังสถานที่จัดงานกันได้เลย

    2. สัมผัสประสบการณ์ไปกับดีไซน์แสนสนุกของ Rokko Garden (02 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูเขา Rokko ประจำจังหวัดเฮียวโกะ / 03 รีสอร์ท ROKKOSAN SILENCE)

    09_rokko_meetsart

    Kanako Namura 《山頂の遊具》

    ท่าเรือโกเบเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868 - 1912) ทำให้ภูเขา Rokko ที่อยู่ข้าง ๆ กันได้รับการพัฒนาเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ที่นี่มีรูปปั้นของ Arthur Hesketh Groom ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้จักกันในฐานะ "ผู้ก่อตั้งภูเขา Rokko" ตั้งอยู่ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูเขา Rokko ประจำจังหวัดเฮียวโกะ รวมถึงรูปปั้นแกะสลักของบรรดาเครื่องเล่นในสวนสนุกที่ตั้งบนพื้นหญ้าสีเขียวด้วย เป็นอีกหนึ่งผลงานในโปรเจคต์นี้เช่นกัน

    10_rokko_meetsart

    “Rokko SILENCE RESORT” ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูเขา Rokko ประจำจังหวัดเฮียวโกะ (Memorial Terrace) ในระยะเดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น ที่นี่ตกแต่งอย่างน่าประทับใจทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังมีผลงานของนักวาดมังงะชื่อ Yuichi Yokoyama จัดแสดงอยู่ในแกลเลอรี่บนชั้น 2 ด้วย

    3. เดินเล่นในป่าดนตรีที่น่ารื่นรมย์ (04 Rokko Forest Sound Museum)

    11_rokko_meetsart

    ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่มีชื่อเสียงซึ่งไม่เพียงแต่จัดแสดงกล่องดนตรีที่ผลิตในยุโรปและอเมริกาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่ให้คุณได้ทำกล่องดนตรีเอง และเครื่องดนตรีอัตโนมัติที่มาบรรเลงบทเพลงให้ได้ฟังกันด้วย

    12_rokko_meetsart

    สวนภายในอาคารแห่งนี้สวยงามมาก และก็มีเส้นทางเดินที่เตรียมเอาไว้อย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีกล่องดนตรีที่ดูเหมือนบ้านนกอยู่ทุกหนทุกแห่งด้วย เมื่อคุณดึงกล่องดนตรีเหล่านี้ลงมา ก็จะมีเพลงจากแอนิเมชันของ Studio Ghibli ดังก้องไปรอบ ๆ ต้นไม้ด้วย เป็นบรรยากาศที่เยียวยาใจได้ดีจริง ๆ 

    13_rokko_meetsart

    Kyotaro Hakamada 《闘う女の子と中国の文官》

    สวนนี้มีการจัดแสดงผลงานอยู่มากมาย รวมถึงผลงานหลักอย่าง Tatakau Onnanoko to Chugoku no Bunkan (闘う女の子と中国の文官) รูปปั้นหญิงสาวที่ตัวทำจากดินเผา แต่ศีรษะดูราวกับมาจากยุคอื่นด้วย สร้างความแปลกประหลาดให้บรรยากาศโดยรอบได้เป็นอย่างดี

    14_rokko_meetsart

    หลังจากที่เดินชมรอบ ๆ กันไปแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ริมระเบียง Mori no Cafe (森のCafe) หรือไปพักผ่อนกันที่บ้านต้นไม้ต่อ ที่นี่มีทั้งเปลญวนริมสระน้ำ และโต๊ะกับเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ในสวน รับรองว่าจะทำให้คุณอยากอยู่ในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีและฟังบทเพลงธรรมชาติเหล่านี้ไปทั้งวันเลยล่ะ!

    4. พืชพรรณและผลงานที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์ (05 Rokko Alpine Botanical Garden)

    15_rokko_meetsart

    ยอดเขา Rokko ตั้งอยู่บนความสูง 931 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล  และมีสวนพฤกษศาสตร์อยู่ในระดับความสูง 865 เมตร เนื่องจากอากาศที่นี่เย็นสบาย สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้จึงเป็นแหล่งของพืชอัลไพน์กว่า 1,500 สายพันธุ์จากทั่วโลก รวมถึงพืชพรรณพื้นเมืองของ Rokko และหญ้าป่า ไม่ว่าคุณจะมองขึ้นหรือมองลงก็จะได้เห็นดอกไม้และพืชพรรณเล็ก ๆ น่ารักมากมายในทุกฤดูกาล

    16_rokko_meetsart

    Kotaro Yoshida (Toshifumi Saito Laboratory) 《 KOTARO YOSHIDA ที่ ROKKO》

    ไม่เพียงแต่พืชอัลไพน์เท่านั้นที่จะทำให้คุณประหลาดใจ แต่ในช่วงจัดงานนิทรรศการของทุกปี ที่นี่ก็จะกลายเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานหลักด้วย ตัวอย่างเช่น พื้นที่นอกร้าน Shop Alpicola ที่อยู่ตรงทางออกฝั่งทิศตะวันตก จะมีผลงานของศิลปินที่หั่นตัวเองออกเป็นท่อน ๆ ด้วยการวางแสตนดี้รูปมนุษย์เรียงกันในแนวนอน ศิลปินคนนี้มีชื่อเสียงมาจากการทดลองเกี่ยวกับการสำรวจศิลปะบนร่างกายมนุษย์ด้วยการสังเกตเรือนร่างของตัวเองทุกวัน ก่อนจะนำแรงบันดาลใจเหล่านั้นมาสร้างสรรค์ผลงาน

    17_rokko_meetsart

    Yottu YUZAWA 《共通祖先 -わたしたちはどこから来てどこへ行くのか-》

    ผลงาน 3 มิติที่น่าอัศจรรย์ใจนี้สร้างขึ้นด้วยหลอดพลาสติก ภายในหลอดมี "น้ำ" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวอย่าง "หนอนตาเขียว" (หนอนตัวสีเขียว ตาสีเขียว) และในปัจจุบันก็ยังคงมีการสร้างต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผลงานทั้งหมดออกมาเป็นสีเขียวในเฉดที่แตกต่างกันเมื่อเสร็จ

    18_rokko_meetsart

    Nobuharu Asano《狭間の森》

    ผลงานที่ตั้งอยู่ใกล้ทางออกทางทิศตะวันออกนั้นชื่อว่า Hazama no Mori (狭間の森) เป็นกลุ่มสัตว์ประหลาด 3 ขาตัวเล็ก ๆ ที่แต่ละตัวจะมีรูปร่างและท่าทางที่แตกต่างกัน ดูน่ารักสุด ๆ ว่ากันว่านี่เป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนิทรรศการนี้เลยทีเดียว เพียงแค่มองก็รู้สึกราวกับได้เข้าไปในป่าแฟนตาซีแล้ว

    5. เพลิดเพลินกับธรรมชาติของ Rokko อย่างเต็มที่ (06 Rokko Garden Terrance / 07 Rokko-Shidare Natural Somatosensory Observatory/ 08 Rokko-Arima Ropeway Sancho Station)

    00_rokko_meetsart

    kammy+OK!《六甲山の乳搾り》

    นอกจาก Sky Terrace ที่กล่าวไปแล้ว Rokko Garden Terrace ก็ยังเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับชมวิวทิวทัศน์ของโกเบด้วย ปีนี้มีการตั้งรูปปั้นที่ท่อนบนเป็นวัวและท่อนล่างเป็นกล่องนมอยู่บนระเบียง และยังมีของเหลวสีขาวพุ่งออกมาจากกล่องนมนั้นด้วย เราคิดว่ารูปปั้นนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับฟาร์ม Rokko Mountain Ranch ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และในขณะเดียวกัน มันก็ยังสื่อถึงวัฒนธรรมอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของโกเบด้วย

    19_rokko_meetsart

    Yodogawa Technique 《Yodogawa山ムツコ グリボウ グリグリボウ》

    อาคารต้นไซเปรสที่ดูเหมือนต้นไม้ยักษ์นี้เป็นแลนด์มาร์กของพื้นที่ในเขต "หอชมวิวธรรมชาติร็อคโค - ชิดาเระ" (Natural Somatosensory Observatory Rokko - Shidare) และก็ตามที่ชื่อบอก คือคุณสามารถสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติได้จากในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นสายลม แสงแดด  ก้อนเมฆ หรือแม้แต่น้ำแข็ง

     

    ที่บันไดทางเข้ามีหมูหลายตัวที่ทำจาก "เศษของเหลือ" ที่ศิลปินรวบรวมมาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ตัวหมูขนาดใหญ่ทำมาจากเลื่อนหิมะกับไม้ค้ำสกีที่นำมาจากสกีรีสอร์ท Rokko Mountain ในขณะที่หมูตัวเล็กทำจากอุปกรณ์เครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่นำมาจากร้านอาหารและสถานบันเทิงต่าง ๆ ผลงานชิ้นนี้ทำให้เราได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเขา Rokko ตั้งแต่ช่วงที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาจนถึงปัจจุบัน

    20_rokko_meetsart

    Kurina NINOMIYA 《Transience》

    จากนั้นก็ไปต่อกันที่บริเวณรอบ ๆ "สถานีโรปเวย์ร็อคโค - อาริมะ ซันโจ" (Rokko-Arima Ropeway Sancho Station) เพราะอีกด้านของสถานีจะมีชานชาลาที่ถูกทิ้งร้างอยู่ บนนั้นมีตาข่ายขนาดใหญ่ที่เป็นผลงานของศิลปินที่ใช้เวลาถึง 14 ปี ในการสร้างให้ใหญ่ยิ่งขึ้น เป็นผลงานที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับรางวัล General Award ปีนี้เลย

    6. ที่นี่มีโบสถ์ที่เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมที่ไม่ควรพลาด (09 Grand Hotel Rokko Sky Villa / 10 โบสถ์แห่งสายลม (Kazenokyokai), โรงละครและศูนย์ศิลปะร็อคโคซัง (Rokkosan Arts Theater and Art Center)

    21_rokko_meetsart

    Kazutoshi Nakajima《道程》

    ส่วนสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันก็คือ กลุ่มผลงานที่สร้างอยู่ในพื้นที่ของ "โบสถ์แห่งสายลม" (Kazenokyokai) และตามที่คุณเห็นในภาพด้านบน พื้นที่ทรายแห่งนี้เคยเป็นโรงแรม Rokko Oriental Hotel (六甲オリエンタルホテル) มาก่อน แต่ก็ได้ปิดตัวลงในปี 2007 และถูกรื้อถอนไปในปี 2017

     

    Kazenokyokai เป็นผลงานของสถาปนิกนามว่า Tadao Ando ที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์และเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงงานนิทรรศการประจำปี หากคุณชอบสถาปัตยกรรมก็ไม่ควรพลาด "โบสถ์แห่งสายลม" (Kazenokyokai) นี้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม Tadao Ando's Church Trilogy หรือหนึ่งในสามผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา โดยอีก 2 แห่งก็คือ "โบสถ์แห่งแสง" ในโอซาก้า (Osaka Church of the Light) และ "โบสถ์บนน้ำ" ในฮอกไกโด (Hokkaido Chapel on the Water)

    22_rokko_meetsart

    Shinji Ohmaki《そらのあな》

    สำหรับปีนี้ นักเขียนวิเคราะห์ศิลปะญี่ปุ่นยุคใหม่ผู้ชาญฉลาดอย่างคุณ Shinji Ohmaki ได้ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่โบสถ์แห่งนี้ให้เป็นสีแดงแทนการใช้กำแพงคอนกรีตเปลือยแบบเดิม ๆ ทำให้ตัวโบสถ์กลายเป็นสีแดงไปด้วย และหอระฆังซึ่งเงียบร้างมานานกว่า 20 ปีก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับจุดไฟแห่งชีวิตขึ้นมาใหม่เลยทีเดียว

    23_rokko_meetsart

    Tomotoshi 《私をもっと見て 2022》

    ในบริเวณเดียวกันนี้มีศูนย์ศิลปะที่ดัดแปลงมาจากอาคารที่เคยเป็นโรงแรมมาก่อน ภายในจัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งหมด 7 คน มีทั้งแนวลึกลับ ตลกขบขัน แปลกประหลาด และอบอุ่น ทั้งหมดล้วนสร้างขึ้นด้วยธีมและสไตล์ที่แตกต่างกัน ในบรรดาผลงานทั้งหมดนี้ ฉันชอบห้องนี้เป็นพิเศษ เพราะด้านในมีภาพ "ซิลลูเอท" (Silhouettes) ที่ศิลปินนำมาตั้งไว้ เป็นรูปเงาของผู้คนที่ยืนถ่ายภาพวิวทิวทัศน์บนผนัง ทำให้ผู้มาเยือนได้รู้สึกเหมือนถูกรายรอบไปด้วยผู้ชมคนอื่น ๆ เมื่อเข้ามาในห้อง เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าดีทีเดียว

    5 เคล็ดลับสำหรับการมีช่วงเวลาที่ดี

    1. "ตราประทับ" ที่ออกแบบโดยนักเรียนภูเขา Rokko

    24_rokko_meetsasrt

    ตอนที่ฉันไปชมงานเทศกาลศิลปะเมื่อหลายปีก่อน แทบทั้งหมดจะมีโต๊ะตราประทับตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับผลงานด้วย เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบตราประทับสามารถเก็บสะสมเป็นของที่ระลึกจากงานได้นั่นเอง โดยตราในงาน “MEETS ART WALK 2022” จะมีความพิเศษมาก เพราะทั้งหมดจะมาในลวดลายที่แตกต่างกัน เป็นผลงานการออกแบบของเด็ก ๆ จากโรงเรียนบนภูเขา Rokko

    2. อิ่มอร่อยกับอาหารในธีม "มิโซะ"

    25_rokko_meetsart

    มิโซะเบอร์เกอร์และ "หอมหัวใหญ่" จากร้าน Forest Café

    ความพิเศษของงานอีเวนต์ปีนี้ คือ การเปิดตัวสินค้าใหม่ขึ้นชื่อ นั่นก็คือ "อาหารเมนูมิโซะแห่งภูเขาร็อคโค" (Mt. Rokko Miso Cuisine) โดยร้านอาหารและคาเฟ่ทั้ง 7 แห่งบนภูเขา Rokko จะมาขายอาหารที่ปรุงด้วยมิโซะจากภูเขา Rokko ซึ่งสามารถหาทานได้ในงานนี้เท่านั้น เพราะเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ คือ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติและศิลปะ ขณะที่ลิ้มลองส่วนผสมที่มีคุณภาพของท้องถิ่นไปด้วยนั่นเอง

    นอกจากนี้ ภูเขา Rokko ก็ยังมีร้านอาหารมากมายที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารระหว่างที่ชมวิวด้านล่างไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย

    rokko_restaurant

    คุณสามารถเพลิดเพลินกับคอร์สอาหารสูตรต้นตำรับและเมนูอาหารชุดได้ที่ร้าน Granite Cafe ของ Rokko Garden Terrace 

    rokko_restaurant2

    ร้านนี้มีเมนูอาหารที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีสไตล์ ปรุงเป็นพิเศษโดยฝีมือของเชฟชั้นดี อีกทั้งยังมีขนมหวานแฮนด์เมดสูตรพิเศษด้วย

    rokko_restaurant3

    ในช่วงกลางคืน คุณก็จะได้รับประทานอาหารพร้อมกับชมวิวยามค่ำคืนที่สวยงาม

    3. อีเวนต์ "Hikari no Mori ~Night Art Walk~ -" นิทรรศการสุดพิเศษในยามค่ำคืน

    26_rokko_meetsart

    Kyota Takahashi 《Hikari no Mi in SIKI Garden》 ROKKO MEETS ART WALK 2021

    ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของช่วงจัดงาน สวนพฤกษศาสตร์ Rokko Alpine Botanical Garden และ พิพิธภัณฑ์เสียง Rokko Forest Sound Sound Museum จะเปิดให้บริการจนถึง 20:00 น. และในตอนกลางคืน สถานที่ทั้ง 2 แห่งนี้ก็จะประดับประดาไปด้วยแสงไฟ ทำให้คุณสามารถเที่ยวชมบรรยากาศงานในยามค่ำคืนได้ด้วย

     

    ในงานนี้ ศิลปิน Korta Korahashi ซึ่งเป็นแขกรับเชิญประจำในงานเทศกาลศิลปะที่สำคัญ ก็ได้มีการใช้แสงไฟและวิดีโอเพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่างให้กับงานด้วยเช่นกัน

    4. "ใบเมเปิ้ลแดง" ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่จะทำให้งานนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น

    27_rokko_meetsart

    วิวใบเมเปิ้ลสีแดงที่เห็นได้จากรถเคเบิล Rokko (ที่มาของรูปภาพ: PIXTA)

    ฉันไปเที่ยวที่นี่ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอนนั้น ทิวทัศน์ยังเป็นสีเขียวซีดเหมือนภาพอื่น ๆ ในบทความนี้ ในอดีต ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้แดงบนภูเขา Rokko จะอยู่ใที่ต้นถึงปลายเดือนพฤศจิกายน และฉันก็เชื่อว่าใบไม้แดงเหล่านี้จะทำให้งานศิลปะดูแตกต่างไปจากเดิมด้วย!

    5. เตรียมพร้อมรับมือกับ "สภาพอากาศบนภูเขา" ที่เปลี่ยนแปลงบ่อย

    28_rokko_meetsart

    ในช่วงเย็นของวันที่ฉันไป มีทั้งหมอกและฝนตก อุณหภูมิก็ลดลงอย่างน่าตกใจ ถึงแม้จะน่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของที่นี่ได้ แต่ภาพหมอกของภูเขา Rokko ก็เป็นบรรยากาศที่พิเศษเช่นกัน หากคุณจะมาเที่ยวที่นี่ ยังไงก็อย่าลืมนำอุปกรณ์กันฝนและเสื้ออุ่น ๆ ติดตัวไปด้วยนะ

    ธรรมชาติและงานศิลปะที่อยู่ใกล้เคียง

    29_rokko_meetsart

    ฉันเชื่อว่าหลังจากที่เยี่ยมชมงาน ROKKO MEETS ART WALK 2022 แล้ว ก็จะพบว่าเมืองโกเบสุดงดงามนี้มีทิวทัศน์ธรรมชาติมากมายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วยเช่นกัน และงานศิลปะที่จัดแสดงอยู่ก็เข้าใจได้ไม่ยาก ตัวอย่างเช่น ตอนที่แฟนของฉันที่ไปด้วยกันได้เห็นการออกแบบการติดตั้งที่หน้าอาคารขนาดใหญ่ข้างทาง และถามว่านั่นใช่ส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการนี้ด้วยหรือเปล่า (เพราะเราไม่เห็นมันในแผ่นพับ) แต่ฉันคิดว่าหากฉันรู้สึกทึ่งไปกับมันและสัมผัสได้ถึงความสวยงามที่อยู่ในนั้นจนคิดว่ามันเป็นงานศิลปะแล้วล่ะก็ มันก็เป็นงานศิลปะได้เหมือนกัน!

     

    ภูเขา Rokko เป็นสถานที่อันน่าทึ่งที่คุณสามารถเที่ยวชมในฤดูใบไม้ร่วงพร้อมกับชมงานศิลปะในธรรมชาติได้

     

    “ROKKO MEETS ART WALK 2022
    ระยะเวลาการจัดแสดง : วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2022 – วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 (วันหยุดนักขัตฤกษ์)
    ไม่มีวันหยุดในช่วงเทศกาล ยกเว้นบริเวณ ROKKOSAN SILENCE RESORT ที่จะปิดให้บริการทุกวันจันทร์ในช่วงเดือนตุลาคม
    ช่วงเวลาเข้าชม: 10:00 – 17:00 น. *ผลงานบางส่วนจะสามารถชมได้หลัง 17:00 น. เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานที่จัดแสดง
    Passport:

    Viewing Passport: ผู้ใหญ่ 2,500 เยน, เด็ก 1,000 เยน

    Viewing Passport พร้อมบัตรกลางคืน: ผู้ใหญ่ 3,300 เยน, เด็ก 1,400 เยน เด็ก (มีส่วนลด 200 เยน สำหรับตั๋วที่ซื้อในสำนักงานขายของบริษัทรถไฟที่มีส่วนร่วมในการจัดงาน และสำนักงานขายที่ตั้งอยู่ตามถนนในเมือง คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ทางการ)

    ข้อมูลสถานที่

    เว็บไซต์

    SHARE

    เพิ่มในรายการโปรดของคุณ

    เพิ่มบทความที่คุณชอบในรายการโปรดต่อไป!
    เพิ่ม

    Use Your Personalized My Page

    เพิ่มบทความที่คุณชอบลงใน My Page และรับเคล็ดลับการเดินทางที่เป็นประโยชน์ จุดท่องเที่ยวแนะนำ และข้อเสนอสุดพิเศษ

    เพิ่ม

    Sign up for HH cross' free membership and get free Wi-Fi and special currency exchange rates!

    กลับไปที่หน้าหลัก

    หมวดหมู่

    สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ช้อปปิ้ง โรงแรม

    สถานที่ท่องเที่ยว

    OSAKA 大阪 大阪 오사카 โอซาก้า KYOTO 京都 京都 교토 เกียวโต KOBE 神户 神戶 고베 โกเบ ALL 所有 京阪神 전체 ทั้งหมด

    ตารางการเดินทาง

    โปรดระบุตารางการเดินทางของคุณด้านล่างเพื่อรับเคล็ดลับการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ และข้อเสนอสุดพิเศษของจุดหมายปลายทางแต่ละแห่ง!
    *กำหนดการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
    จุดหมายปลายทาง

    ตั้งแต่เมื่อไหร่?
    ถึงเมื่อไหร่?
    ปิด

    เกิดข้อผิดพลาด

    กรุณากรอกในตำแหน่งที่ถูกต้อง ปิด

    เกิดข้อผิดพลาด

    กรุณากรอกวันที่ให้ถูกต้อง ปิด