6 อาคารของสถาปนิก Tadao Ando ที่ควรไปเยี่ยมชมในโอซาก้า เกียวโต และโกเบ

2023/01/06
00_andotadao_hyogokenbi

"Tadao Ando" (ทาดาโอะ อันโดะ) เป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านนวัตกรรมอาคารหล่อคอนกรีต เนื่องจากเขาเกิดในโอซาก้า ภูมิภาคคันไซจึงมีงานสถาปัตยกรรมของเขาอยู่มากมาย และต่อจากนี้ เราก็จะมาแนะนำจุดท่องเที่ยวที่คุณสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมและงานศิลปะได้ ขณะที่เพลิดเพลินกับการออกแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของเขาไปพร้อม ๆ กัน

 

1. 【KOBE】Hyogo Prefectural Museum of Art

2. 【KOBE】โบสถ์แห่งสายลม

3.【OSAKA】ป่าหนังสือเด็ก Nakanoshima

4.【KYOTO】พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Asahi Beer Oyamazaki Villa

5.【KYOTO】สวนวิจิตรศิลป์เกียวโต

6.【HIMEJI】พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมเมืองฮิเมจิ

1. 【KOBE】Hyogo Prefectural Museum of Art

01_andotadao_hyogokenbi(要クレジットJIRO FUJIWARA 南西外観)

JIRO FUJIWARA (南西外観)

พิพิธภัณฑ์นี้เปิดตัวขึ้นในปี 2002 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่ง "การฟื้นฟูวัฒนธรรม" จากแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (Hanshin-Awaji Earthquake) และมีชื่อเล่นสั้น ๆ ว่า "พิพิธภัณฑ์ศิลปะ" ที่นี่จัดแสดงผลงานกว่า 10,000 ชิ้น รวมถึงประติมากรรมสมัยใหม่และภาพพิมพ์ต่าง ๆ จากญี่ปุ่นและต่างประเทศ นอกจากการจัดแสดงผลงานศิลปะเหล่านี้แล้ว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ อาคารที่ออกแบบโดยคุณ Ando ซึ่งเป็นโครงสร้างที่เรียบง่ายแต่เหมือนเขาวงกตขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแสง ผู้เยี่ยมชมสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์เชิงพื้นที่ที่ซับซ้อนและหลากหลายในสถานที่ที่ผสมผสานศิลปะแขนงต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ

 

หลังจากผ่านโถงทางเข้าที่มีบรรยากาศเงียบสงบแล้ว ผู้มาเยือนก็จะได้รับการต้อนรับด้วยทางเดินผนังกระจกที่ล้อมรอบห้องนิทรรศการซึ่งมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ และส่วนอื่น ๆ ของอาคาร แต่ละส่วนก็ทำให้มีบรรยากาศที่ดูร่มรื่นเช่นกัน

02_andotadao_hyogokenbi

"เฉลียงทรงกลม" นี้เป็นสัญลักษณ์ของทางพิพิธภัณฑ์ ทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่ชั้นใต้ดินชั้นแรกเข้ากับพื้นที่กลางแจ้งบนชั้น 2 และเชื่อมระหว่างอาคารนิทรรศการ อาคารแกลลอรี่ ทะเล และภูเขา คอนกรีตที่หล่อขึ้นมาก่อตัวกันเป็นเกลียวสวยงามทำให้เกิดมุมแสงเงาที่น่าประทับใจ

00_andotadao_hyogokenbi

ในปี 2019 อาคารนิทรรศการหลังที่ 2 (Ando Gallery) ได้เปิดตัวขึ้นเพื่อจัดแสดงงานสถาปัตยกรรมของ Ando ด้วยการใช้แบบจำลองจากผลงานชิ้นเอกของเขา เช่น "Sumiyoshi Row Houses" และ "Church of Light" รวมถึงโปรเจคต์ต่าง ๆ ที่เขาทำทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ นับเป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้มาเยือนที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับผลงานของ Ando

03_andotadao_hyogokenbi

"Sea Deck" เป็นพื้นที่ชมวิวบนชั้น 3 ของพื้นที่กลางแจ้ง หน้าตาคล้ายจะยื่นออกไปในทะเล และมีรูปปั้นแอปเปิ้ลเขียวขนาดใหญ่ซึ่งคุณ Ando ออกแบบตามบทกวี “Youth“ ของกวีชาวอเมริกันชื่อ Samuel Ullman ตั้งประดับอยู่ด้วย

นอกจากนี้ บนชั้น 4 ยังมี "Mountain Deck" และ "Wind Deck" ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของทางเข้าชั้น 1 ก็มีบันไดขนาดใหญ่ที่นำไปสู่พื้นที่กลางแจ้งบนชั้น 2 และ 3 เช่นกัน ผู้เข้าชมสามารถนั่งหันหลังให้พิพิธภัณฑ์และมองออกไปยังมหาสมุทรที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้าได้

 

เสน่ห์ที่เป็นที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปเรื่อย ๆ โดยขึ้นอยู่กับเวลาและฤดูกาลที่คุณไปเยี่ยมชม ซึ่งก็อาจทำให้หลงทางหรือไม่สะดวกอยู่บ้าง แต่ก็มีความสนุกที่ซ่อนอยู่ในการหากลไกทางสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วย! ลองมาเยี่ยมชมเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์เชิงพื้นที่ที่สามารถรู้สึกได้เพียงชั่วขณะกันดูสิ

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

1-1-1, Wakinohamakaigandori, Chuo-ku, Kobe, Hyogo[แผนที่]

การเดินทาง

เดิน 8 นาที จากสถานี Iwaya ของรถไฟสาย Hanshin Main Line

เว็บไซต์

เวลาเปิดทำการ

10.00~18.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17.30 น.)

ปิด

วันจันทร์ (วันถัดไปหากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ)
วันหยุดปีใหม่ (31 ธ.ค. – 1 ม.ค.)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่: 500 เยน
70 ปีขึ้นไป : 250 เยน
นักศึกษา: 400 เยน
นักเรียนมัธยมปลายและต่ำกว่า: ฟรี

2. 【KOBE】โบสถ์แห่งสายลม

04_andotadao_kazenokyoukai

ที่นี่เป็น 1 ในโบสถ์ 3 แห่ง ที่เรียกว่า "Church Trilogy" ที่คุณ Ando เป็นคนออกแบบ และเป็นอาคารโบสถ์หลังแรกของคุณ Ando ที่สร้างเสร็จในปี 1986 บนยอดเขา Rokko จึงถูกเรียกว่า "Church of the Wind" เพราะมีบรรยากาศอันแสนสดชื่นที่ได้จากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ โบสถ์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับจัดพิธีแต่งงานของทางโรงแรม และในปัจจุบันก็ไม่ได้เปิดให้บริการแก่สาธารณชน แต่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้เป็นกรณีพิเศษในช่วงงาน "ROKKO MEETS ART WALK" ซึ่งเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ช่วงปลายฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง

 

ตัวโบสถ์มีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมทึบตั้งอยู่บนโครงคอนกรีตหล่อ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมสไตล์ Ando แสงที่ส่องผ่านช่องว่างระหว่างผนังกับเพดานลงมาจะทำให้พื้นที่ดูศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบ การออกแบบนี้มีต้นกำเนิดมาจากวิหาร "Notre Dame de Senancq Abbey" ในรัฐโพรวองซ์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และ 13 ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ Ando เป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เยี่ยมชมโบสถ์และรู้สึกประทับใจในการใช้แสงที่ส่องผ่านหน้าต่างบานเล็กบนกำแพงหินขรุขระเป็นดาวเด่นในการนำเสนอพื้นที่

05_andotadao_kazenokyoukai

ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของอาคาร คือ "โคลอนเนด" (Colonnade) ทางเดินที่มีเสายาว 40 เมตรที่นำไปสู่โบสถ์ ทำจากกระจกฝ้าสีศิลาดล (คล้ายสีเขียวหยก) แนวเสานี้พัฒนามาจากแนวเสารอบลานของวิหาร "Notre-Dame de Senancq Abbey" ที่เป็นแบบเส้นตรง สายลมที่พัดผ่าน ความเขียวขจีโดยรอบ (greenery) และตัวอาคารผสมผสานกันได้เป็นพื้นที่อันแสนยอดเยี่ยม

06_andotadao_kazenokyoukai

"โบสถ์แห่งสายลม" ซ่อนตัวอยู่ในป่าบนภูเขา Mt.Rokko เงาของแสงทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ที่สวยงาม และทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างน่าประหลาด มาใช้เวลาของคุณกับการฟังเสียงธรรมชาติ สัมผัสกับสายลมที่พัดผ่าน และเพลิดเพลินกับวิวพาโนราม่าของเมืองโกเบและโอซาก้าจากยอดเขา Rokko กันดูสิ

 

โดยปกติแล้ว โบสถ์แห่งนี้จะปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้าชม แต่จะเปิดเฉพาะช่วงที่มีงาน "ROKKO MEETS ART WALK" เท่านั้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม คุณสามารถตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ ดังนั้น อย่าพลาดโอกาสสุดหายากนี้กันเลยเชียว!

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

1878-78, Nishitaniyama, Rokkosan-cho, Nada-ku, Kobe, Hyogo [แผนที่]

การเดินทาง

ขึ้นรถบัส Kobe City Bus จากสถานี Mikage ของรถไฟสาย Hanshin Main Line
ลงที่ป้าย Rokko Cable Shita
แล้วขึ้น ร็อคโคเคเบิล เพื่อไปด้านบน
จากนั้นเดินต่อ 20 นาที จากสถานี Rokko Sanjo

เว็บไซต์

เวลาเปิดทำการ

10.00 - 16.50 น. (ปิดลงทะเบียนเวลา 16.30 น.)

ปิด

โดยปกติจะปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้าชม และจะเปิดให้บริการเฉพาะในช่วงงาน “ROKKO MEETS ART” เท่านั้น

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่: 1,000เยน
เด็ก: 400เยน

3.【OSAKA】ป่าหนังสือเด็ก Nakanoshima

07_andotadao_kodomohonnomori(要クレジット伊東俊介)

©伊東俊介

"ฉันต้องการให้เด็ก ๆ ได้หยิบหนังสือที่หลากหลายและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์กับความอยากเรียนรู้ไปอย่างไร้ขีดจำกัด แล้วฉันก็ต้องการให้พวกเขาได้รู้จักกับคำพูด ความรู้สึก และแนวคิดในหนังสืออย่างเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้ว่ามีผู้คนและวิถีชีวิตในโลกที่แตกต่างจากพวกเขาด้วย" นี่เป็นแนวคิดที่ทำให้สถาปนิก Tadao Ando ตัดสินใจออกแบบอาคารเหล่านี้ด้วยตนเองเพื่ออุทิศให้กับเมืองโอซาก้า และในที่สุด อาคารแห่งนี้ก็ถือกำเนิดขึ้นในบริเวณสันทราย Nakanoshima ในปี 2020 โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแต่ละวันนั้นก็ได้รับการสนับสนุนจากเงินบริจาคของประชาชนและบริษัทต่าง ๆ เช่นกัน

08_andotadao_kodomohonnomori

รูปปั้นแอปเปิ้ลสีน้ำเงินยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงระเบียงทางเข้านั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวี "Youth" ของกวีชาวอเมริกัน ชื่อ Samuel Ullman ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของคุณ Ando ที่ต้องการให้ผู้คนจำนวนมากประทับใจในสัญลักษณ์ของเยาวชนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย

09_andotadao_kodomohonnomori

ในการออกแบบอาคาร คุณ Ando ได้เน้นเรื่องการใช้ประโยชน์จากสถานที่ใน Nakanoshima ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโอซาก้าที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่ และพยายามให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะได้มีบทบาทสำคัญในสถานที่แห่งนี้ อาคารริมแม่น้ำ Dojima สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตผิวเรียบ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมของคุณ Ando อีกทั้งทางทิศตะวันตกก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาโอซาก้า ศาลากลางโอซาก้า และอาคารด้านวัฒนธรรมและศิลปะอื่น ๆ อีกมากมายด้วย

10_andotadao_kodomohonnomori

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นโถง 3 ชั้นที่มีบันไดและทางเดินสะพานเหมือนเขาวงกตสามมิติ ผนังทั้งหมดเต็มไปด้วยชั้นหนังสือไม้ สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นราวกับได้เดินเข้าไปใน "ป่าหนังสือ" และค้นหาหนังสือใน "ห้องพักผ่อน" ซึ่งเป็นพื้นที่ทรงกระบอกที่ไม่มีพื้นคอนกรีต มีการแสดงวิดีโอเพื่อกระตุ้นให้เด็กสนใจหนังสือกันมากขึ้นด้วย

11_andotadao_kodomohonnomori(要クレジット伊東俊介)

©伊東俊介

หนังสือเล่มเดียวกับที่ตั้งโชว์อยู่บนชั้นจะถูกนำมาวางไว้ที่ชั้นล่างเพื่อให้ได้ทดลองอ่านกัน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดนั้นทำจากไม้เพื่อให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้น

12_andotadao_kodomohonnomori(要クレジット伊東俊介)

©伊東俊介

ที่เห็นอยู่นี้ คือ "ประติมากรรมคำพูด" หรือ "Sculptures of Words" ที่จัดแสดงอยู่ตามชั้นหนังสือ นอกจากนี้ก็ยังมีประโยคสั้น ๆ อันน่าประทับใจที่นำมาจากหนังสือ ซึ่งทำเป็นตัวอักษรสามมิติในช่องว่างด้วย เนื่องจากเด็ก ๆ มักจะเดินผ่านชั้นหนังสือไป เราจึงต้องการสร้างโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เริ่มอ่านหนังสือและสัมผัสกับประโยคที่มีเสน่ห์สักประโยคหนึ่งโดยการนำถ้อยคำเหล่านั้นไปใส่ในขอบเขตการมองเห็นของพวกเขา นี่คือแนวคิดเบื้องหลังการสร้างป่าหนังสือแห่งนี้

13_andotadao_kodomohonnomori

"ป่าหนังสือเด็กนาคาโนะชิมะ" เป็นสถานที่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของหนังสือได้ อาคารนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของ Ando กับทิวทัศน์ริมแม่น้ำของ "โอซาก้า" เมืองแห่งสายน้ำ ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับโลกแห่งหนังสือได้อย่างเต็มที่
(ต้องจองล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบเว็บไซต์ทางการของ Nakanoshima Children's Book Forest เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าชม)

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

1-1-28, Nakanoshima, Kita-ku, Osaka[แผนที่]

การเดินทาง

เดิน 5 นาที จากสถานี Kitahama ของรถไฟสาย Osaka Metro Sakaisuji Line

เว็บไซต์

เวลาเปิดทำการ

09:30 - 17:00 น.

ปิด

วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ห้องสมุดจะเปิดให้บริการในวันจันทร์ และปิดให้บริการในวันธรรมดาถัดไป)
ระยะเวลาเคลียร์การจัดเก็บ
ช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่

ค่าเข้าชม

ฟรี

4.【KYOTO】พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Asahi Beer Oyamazaki Villa

14_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

ที่นี่สร้างขึ้นโดยนักธุรกิจ Shotaro Kaga เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศตั้งแต่ยุคไทโช (ค.ศ. 1912 - 1926) จนถึงต้นยุคโชวะ (ค.ศ. 1926 - 1989) เมื่อเวลาผ่านไป วิลล่าก็เริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปี 1996 ได้เกิดการเรียกร้องให้อนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันล้ำค่าและธรรมชาติโดยรอบไว้ ที่นี่จึงได้รับการบูรณะให้กลับสู่สภาพเดิมและเปิดใหม่อีกครั้งในฐานะพิพิธภัณฑ์ศิลปะพร้อมปีกใหม่ที่ออกแบบโดย Tadao Ando

15_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

ส่วนอาคารหลักซึ่งออกแบบโดย Shotaro Kaga นั้นสร้างจากไม้ในยุคไทโชและได้รับการขยายพื้นที่มากขึ้นในช่วงต้นยุคโชวะ อาคารหลักสร้างด้วยการผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน รวมถึงการใช้คานและเสาแกะสลักด้วย

16_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

ส่วนบนของอาคารหลักใช้ระบบแบบครึ่งไม้ (Half-timber) ซึ่งจะมีการโชว์ลักษณะโครงไม้ของสไตล์อิงลิชทิวดอร์โกธิค และสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมโครงเหล็กสำหรับส่วนหลังคา
ส่วนระเบียงบนชั้น 2 มีทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำ 3 สายที่ไหลผ่าน Kizu, Uji และ Katsura ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยตั้งแต่มีการก่อสร้าง

17_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

ส่วนเสริมที่เรียกว่า Jichu-kan แห่งนี้เป็นผลงานการออกแบบของคุณ Ando ทำหน้าที่เป็นทางเดินเชื่อมอาคารหลักเข้าด้วยกัน ทำด้วยคอนกรีตฉาบเรียบ ๆ มีผนังกระจกติดตั้งเอาไว้ทั้งสี่ด้านและด้านหน้า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตามฤดูกาลที่อยู่โดยรอบได้อย่างชัดเจน สร้างบรรยากาศที่ดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

18_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

สระน้ำขนาดเล็กที่มีดอกบัวบานอยู่ข้าง ๆ บันไดที่นำไปสู่ Chichu-kan มีชื่อเรียกว่า "Chichu-no-Jewel Box" จากหน้าต่างที่อยู่สุดปลายของบันไดยาว คุณสามารถมองเห็นบ่อน้ำสูงในระดับสายตาของคุณได้ เนื่องจากตัวอาคารตั้งอยู่บนทางลาด ดังนั้นก็อย่าลืมเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่ชมได้จากภายในอาคารกันด้วยนะ

19_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

Chichu-kan หรือที่คุณ Ando เรียกว่า "Underground Jewel Box" นี้ ได้รับการออกแบบในโครงสร้างกึ่งใต้ดินทรงกระบอกเพื่อให้ดูกลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ หลังคาเหนือพื้นที่จัดแสดงมีการปลูกต้นไม้เพื่อให้กลมกลืนกับความเขียวขจี (greenery) ของสภาพแวดล้อมด้วย

20_andotadao_asahibeer_ooyamazaki

ภาพประกอบโดย Asahi Beer Oyamazaki Villa Museum of Art

ในปี 2012 คุณ Ando ได้ออกแบบอาคารใหม่ที่ชื่อ Yamatekan "Box of Dreams" จนเสร็จสมบูรณ์ อาคารนี้มีโครงสร้างเป็นทรงกล่องซึ่งตรงข้ามกับ "Chichu Jewel Box" ตัวอาคารคอนกรีตตั้งตรงถูกฝังไว้ในดงต้นไม้ และด้านบนก็มีการปลูกต้นไม้ไว้เพื่อให้ดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติเหมือนกับ Chichu-kan นั่นเอง

 

ทั้งอาคารเก่าและใหม่ และสภาพแวดล้อมที่อยู่ร่วมกันอย่างสมดุลนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึง "การเกิดใหม่" ของสถาปัตยกรรมสไตล์ Ando ในวิลล่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่หลังนี้

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

5-3, Zenihara, Oyamazaki-cho, Otokuni-gun, Kyoto [แผนที่]

การเดินทาง

เดิน 10 นาที จากสถานี Oyamazaki ของรถไฟสาย Hankyu Kyoto Line

เวลาทำการ

10.00 - 17.00 น. (เข้าชมครั้งสุดท้ายเวลา 16.30 น.)

ปิด

วันจันทร์ (หรือวันอังคารถัดไป หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ปิดชั่วคราว
ช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่: แตกต่างกันไปในแต่ละนิทรรศการ
นักเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย: 500 เยน
นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่า: ฟรี

5.【KYOTO】สวนวิจิตรศิลป์เกียวโต

21_andotadao_kyototoban

ภาพประกอบโดย Kyoto Prefectural Garden of Fine Arts Kyoto

สวนแห่งนี้เปิดตัวขึ้นในปี 1994 เป็นสวนภาพวาดแห่งแรกของโลกที่สามารถเข้าชมกลางแจ้งได้ สถานที่นี้ออกแบบโดยคุณ Ando เป็นพื้นที่จัดแสดงภาพวาดบนกระดานเซรามิกที่แข็งแรงกลางแจ้งซึ่งจำลองความงดงามของผลงานชิ้นเอกในรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ ที่นี่เป็นสวนริมน้ำ มีน้ำตกและสระน้ำขนาดใหญ่เล็กปะปนกันไป โดยบรรยากาศของงานก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ชม จุดชมวิว และสภาพอากาศ

 

อาคารนี้มี 3 ระดับ โดยมีทางลาดเอียงต่ำลงจากระดับพื้นดินไปยังชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 ซึ่งผู้เข้าชมสามารถชมนิทรรศการจากด้านล่างได้ตามลำดับ

22_andotadao_kyototoban (1)

ภาพประกอบโดย Kyoto Prefectural Garden of Fine Arts Kyoto

จัดแสดงผลงานชิ้นเอกทั้งหมด 8 ชิ้นจากทั่วโลก โดย 4 ชิ้นถูกสร้างขึ้นเพื่องาน "International Garden and Greenery Exposition" ที่จัดขึ้นในปี 1990 และจัดแสดงใน "Garden of Masterpieces" ซึ่งเป็นศาลาที่ออกแบบโดยคุณ Ando ส่วนอีก 4 ชิ้นถูกสร้างขึ้นสำหรับอาคารหลังนี้โดยเฉพาะ

 

ภาพวาด "The Last Judgement" ของ Michelangelo ที่มีขนาดเกือบเท่าตัวคนด้วยความสูงกว่า 13 เมตร สามารถชมได้จากทุก ๆ ชั้นบนทางเดิน

23_andotadao_kyototoban

ภาพประกอบโดย Kyoto Prefectural Garden of Fine Arts Kyoto

ภาพวาด "The Last Supper" ของ Leonardo da Vinci คั่นอยู่ระหว่างท้องฟ้าและผืนน้ำ ภาพวาดนี้ได้รับการออกแบบให้สะท้อนลงไปในน้ำ ทำให้ดูน่าสนใจว่าภาพวาดบนผิวน้ำจะแตกต่างจากภาพวาดปกติอย่างไร

24_andotadao_kyototoban

ภาพประกอบโดย Kyoto Prefectural Garden of Fine Arts Kyoto

สมบัติของชาติ ภาพล้อเลียนนก สัตว์ และมนุษย์ในเวอร์ชันขยายใหญ่ขึ้น 2 เท่า แถบเลื่อนยาว ๆ ที่อ่านจากด้านขวานี้ถูกนำมาจัดแสดงเพื่อให้ผู้มาเยือนสามารถชมได้อย่างลื่นไหลไปตามทิศทางของการเดิน

 

ผลงานของ Van Gogh และ Renoir ที่มองผ่านหน้าต่างบนผนังคอนกรีต ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากภาพวาด "Waterlilies, Morning" ของ Monet ที่จัดแสดงอยู่ใต้น้ำเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจในมุมมองของเขา และการชมที่ดูราวกับว่ากำลังจ้องมองภาพวาดจากด้านบนนั้นก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วย เป็นวิธีสุดแหวกแนวที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับภาพวาด ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของแสงและผิวน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับซึ่งสามารถหาชมได้จากภาพวาดบนกระดานเซรามิกเท่านั้น

 

พื้นที่นี้ออกแบบโดย Ando โดยใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมกลางแจ้งในการสร้างสรรค์ เป็นสถานที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับงานศิลปะในรูปแบบที่แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ในอาคาร

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

Shimogamo Hangi-cho, Sakyo-ku, Kyoto[แผนที่]

การเดินทาง

จากสถานี Karasuma ของรถไฟสาย Hankyu Kyoto Line
เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดิน Kyoto Municipal Subway ลงที่สถานี Kitayama
แล้วเดินต่อ 1 นาที

เว็บไซต์

เวลาทำการ

9:00-17:00 น. (เข้าชมครั้งสุดท้ายเวลา 16:30 น.)

ปิด

28 ธันวาคม - 4 มกราคม (สวนสาธารณะอาจปิดเพื่อซ่อมบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่: 100เยน
นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่า + อายุ 70 ปีขึ้นไป : ฟรี

6.【HIMEJI】พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมเมืองฮิเมจิ

25_ando_tadao_himejibungakukan

พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมรดกโลกเชิงวัฒนธรรมและสมบัติของชาติ "ปราสาทฮิเมจิ" นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 เพื่อเป็นฐานสำหรับการทำกิจกรรมทางวรรณกรรมทุกประเภท รวมถึงการรวบรวมและศึกษาเนื้อหาโดยนักเขียนและนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับฮิเมจิและพื้นที่อื่น ๆ ของฮาริมะด้วย

การออกแบบอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ของอันโดะ ซึ่งมีการ "ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับการหมุนเวียนและสนทนากับวรรณกรรมโดยมีปราสาทเป็นฉากหลัง" ดูกลมกลืนกับทิวทัศน์ของเมืองเก่าในขณะที่สร้างภูมิทัศน์ใหม่ไปพร้อม ๆ กัน และจากแนวคิดการออกแบบที่คุณสามารถเดาได้จากชื่อ ปราสาทฮิเมจิที่มีชื่อเล่นว่า "ปราสาทชิราซากิโจ" นี้สามารถชมจากภายในอาคารได้ นับเป็นสถานที่สุดพิเศษที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับเมืองฮิเมจิได้จากทั้งภายในและนอกอาคาร

 

26_ando_tadao_himejibungakukan

อาคารแห่งนี้ประกอบด้วยปีกเหนือ 3 ชั้นและปีกใต้ 2 ชั้น อีกทั้งยังมี "Bokkeitei" บ้านญี่ปุ่นจากสมัยไทโชที่มีห้องสไตล์ญี่ปุ่นขนาด 40 เสื่อและห้องทำพิธีชงชาด้วย

27_ando_tadao_himejibungakukan

"ทางเดินประวัติศาสตร์ปราสาทฮิเมจิ" ที่ชั้น 1 ของปีกเหนือมีการนำเสนอเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของปราสาทฮิเมจิและภูมิภาคผ่านวิดีโอและกราฟิก โดยมีอยู่ทั้งหมด 26 ตอนในทางเดินโค้งยาว ซึ่งผู้มาเยือนสามารถชื่นชมได้โดยเดินตามทางโค้งไปเรื่อย ๆ

ในชั้นเดียวกันนี้ มีห้องนิทรรศการ "Forest of Words" ที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสกับคำพูดอันน่าประทับใจที่บุคคลในวรรณกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับฮาริมะและชีวิตของพวกเขาได้ และบนชั้น 2 ก็เป็นมุมที่อุทิศให้กับ Watsuji Tetsuro นักปรัชญาที่เกิดในเมืองฮิเมจิ

28_ando_tadao_himejibungakukan

ปีกด้านใต้มีห้องอนุสรณ์ "Ryotaro Shiba Memorial Room" และคาเฟ่ที่ผู้เข้าชมสามารถผ่อนคลายได้

29_ando_tadao_himejibungakukan

พื้นที่ผนังกระจกที่มองจากภายนอกนี้เป็น "Yoiko no Heya" สำหรับผู้ปกครองและเด็ก ๆ เป็นพื้นที่ที่สว่างและมีสีสันเหมือนห้องอาบแดด ที่นี่ ผู้เข้าชมจะสามารถถอดรองเท้า อ่านหนังสือภาพ และเล่นของเล่นขณะที่พักผ่อนคลายได้ นอกจากนี้ก็ยังมีพรมปักและโมบายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวใน "Harimakuni Fudoki" ซึ่งเป็นที่มาของชื่อฮิเมจิอยู่ด้วยเช่นกัน

30_ando_tadao_himejibungakukan

พื้นที่ที่อาคารแห่งนี้ตั้งอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบนั้น มีส่วนผสมของเส้นตรงเส้นโค้ง และแสงเงาที่สวยงาม จนดูราวกับงานศิลป นอกจากนี้ ตึกรามบ้านช่องเองก็ดูมีศิลป์งดงามไม่แพ้กัน เป็นการผสมผสานระหว่างเส้นตรง เส้นโค้ง แสง และเงาที่เข้ากับธรรมชาติโดยรอบได้อย่างลงตัว

ข้อมูลสถานที่

ที่อยู่

84, Yamanoi-cho, Himeji-shi, Hyogo[แผนที่]

การเดินทาง

ขึ้นรถบัส Shinki จากสถานี Himeji ของรถไฟสาย Sanyo Electric Railway Line
ไปลงที่ป้าย Ichinohashi Bungakukan-mae
แล้วเดินต่อ 4 นาที

เวลาทำการ

10.00-17.00 น. (เข้าชมครั้งสุดท้าย 16.30 น.)

ปิด

วันจันทร์ (เปิดทำการหากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
วันถัดจากวันหยุดนักขัตฤกษ์ (เปิดวันเสาร์-อาทิตย์)
วันหยุดปีใหม่ (25 ธ.ค.-5 ม.ค.)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่: 450เยน
นักเรียนมหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยมปลาย: 300เยน
นักเรียนมัธยมต้นและประถม: 15oyen

เป็นอย่างไรกันบ้าง?
เมื่อพูดถึงงานสถาปัตยกรรมแล้วล่ะก็ งานของ Tadao Ando คือสิ่งที่พลาดไม่ได้! หากคุณไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองไปสัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกของ Tadao Ando ไปพร้อม ๆ กับการเที่ยวชมดูสิ

เกี่ยวกับผู้เขียน

COM
COM
หลากหลายประเภท เช่น อาหารการกิน แฟชั่น ศิลปะ วัฒนธรรม และอื่นๆ
บรรณาธิการและนักเขียนสำหรับการรวบรวมข้อมูลและเขียนบทความ
ไปเห็น ได้ยิน เดินทาง กิน ดื่ม....
เราส่งข้อมูลในขณะที่ให้ทันทีตั้งแต่ตอนที่เรากำลังสัมผัสประสบการณ์อยู่
บทความ

KEYWORD

SHARE

เพิ่มในรายการโปรดของคุณ

เพิ่มบทความที่คุณชอบในรายการโปรดต่อไป!
เพิ่ม

Use Your Personalized My Page

เพิ่มบทความที่คุณชอบลงใน My Page และรับเคล็ดลับการเดินทางที่เป็นประโยชน์ จุดท่องเที่ยวแนะนำ และข้อเสนอสุดพิเศษ

เพิ่ม

Sign up for HH cross' free membership and get free Wi-Fi and special currency exchange rates!

กลับไปที่หน้าหลัก

หมวดหมู่

สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ช้อปปิ้ง โรงแรม

สถานที่ท่องเที่ยว

OSAKA 大阪 大阪 오사카 โอซาก้า KYOTO 京都 京都 교토 เกียวโต KOBE 神户 神戶 고베 โกเบ ALL 所有 京阪神 전체 ทั้งหมด

ตารางการเดินทาง

โปรดระบุตารางการเดินทางของคุณด้านล่างเพื่อรับเคล็ดลับการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ และข้อเสนอสุดพิเศษของจุดหมายปลายทางแต่ละแห่ง!
*กำหนดการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
จุดหมายปลายทาง

ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถึงเมื่อไหร่?
ปิด

เกิดข้อผิดพลาด

กรุณากรอกในตำแหน่งที่ถูกต้อง ปิด

เกิดข้อผิดพลาด

กรุณากรอกวันที่ให้ถูกต้อง ปิด