ศาลเจ้า Kifune หนึ่งในพาวเวอร์สปอตที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขต Kifune ที่เชิงเขา Kurama ในเขต Sakyo ของเมืองเกียวโตซึ่งอุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งน้ำ ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ที่ต้นน้ำของแม่น้ำ Kamo ที่ไหลผ่านเกียวโต ซึ่งเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า "เมืองชั้นในของเกียวโต" เพราะมีอากาศเย็นสบายแม้ในช่วงกลางฤดูร้อน

ในหน้านี้เราจะแนะนำประโยชน์ การเข้าถึง สถานที่ท่องเที่ยว เครื่องราง และตราประทับสีแดงของศาลเจ้า Kifune

ศาลเจ้า Kifune เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของชีวิต และเป็นศาลเจ้าหลักของเทพเจ้าแห่งน้ำ มีศาลเจ้าย่อยออกไปจำนวนกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ไม่มีข้อมูลวันที่พบศาลเจ้านี้อย่างแน่ชัด และที่มาของศาลเจ้าก็ไม่ชัดเจน แต่ก็เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เนื่องจากมีบันทึกการสร้างศาลเจ้าขึ้นใหม่เมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน

ศาลเจ้า Kifune ตั้งอยู่ในป่าลึกระหว่างภูเขา Kibune และภูเขา Kurama มักจะมีคนเต็มแน่นในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นจึงควรใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง

จากสถานี Hankyu Kyoto Kawaramachi เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Keihan ที่มุ่งหน้าไปยัง Demachiyanagi ลงที่สถานีสุดท้าย คือ Demachiyanagi จากนั้นก็เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Eizan ที่มุ่งหน้าไปยัง Kurama ลงที่สถานี Kibune-guchi แล้วขึ้นรถบัส Kyoto หมายเลข 33 ไปลงที่ป้าย Kibune จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า Kifune

ศาลเจ้า Kifune มีศาลเจ้าชินโตอยู่ 3 แห่ง และวิธีเยี่ยมชมศาลเจ้าที่ถูกต้องตามหลักการก็คือ เดินทางจาริกแสวงบุญไปยังศาลเจ้าทั้ง 3 ซึ่งได้แก่ ”ศาลเจ้าหลัก” ”ศาลเจ้าด้านหลัง” และ ”Yui no Yashiro” ตามลำดับ

เริ่มทัวร์ศาลเจ้าทั้ง 3 จากสถานี Kibune-guchi บน Eizan Electric Railway

เดินตามแม่น้ำ Kibune จากสถานี Kibune-guchi ไปสักพัก คุณจะเห็นหินก้อนใหญ่อยู่ทางด้านขวา ซึ่งเรียกว่า Hotaruiwa (หินหิ่งห้อย)

หิ่งห้อยเป็นสิ่งที่หาชมยากในใจกลางเมืองเกียวโต แต่ Kibune ก็ยังคงมีชื่อเสียงเรื่องน้ำใสและหิ่งห้อย

Umemiya-sha ตั้งอยู่ทางเหนือของ Hotaruiwa ในระยะเดิน 5 นาที เป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับศาลเจ้า Kifune เนื่องจากมันเล็กมากจึงต้องสังเกตดี ๆ เพื่อไม่ให้พลาด

ไกลออกไปทางต้นน้ำจาก Umemiya-sha คุณจะพบกับ Shiraishi-sha

เมื่อเดินผ่านถนนที่เรียงรายไปด้วยเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม) คุณจะเห็นเสาโทริอิสีแดง (ประตูศาลเจ้า) นั่นคือประตูโทริอิบานที่ 2 ของศาลเจ้า Kifune ซึ่งเป็นทางเข้าศาลเจ้าหลัก

เมื่อผ่านประตูโทริอิเข้าไปแล้ว คุณจะพบตะเกียง Kasuga สีแดงสดเคลือบเงาและบันไดหินที่ขนาบอยู่สองข้าง บันไดหินนี้มีทั้งหมด 87 ขั้น ถือเป็นจุดที่ต้องไปถ่ายรูปให้ได้เมื่อมาที่ศาลเจ้า Kifune มาขึ้นบันไดหินไปทีละขั้นกันเถอะ

ที่ด้านบนสุดของบันได คือ Katsura ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุ 400 ปี สูง 30 เมตร ซึ่งเกือบจะแตะท้องฟ้า กิ่งก้านมากมายที่ซ้อนกันอยู่นั้นแผ่ออกไปทั่วทุกทิศทาง คล้ายมังกรที่บินไปสู่สวรรค์

เดิมที ศาลเจ้าหลักเคยตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นศาลเจ้าด้านหลังในปัจจุบัน แต่เนื่องจากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงถูกย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันในปี 1055 และศาลเจ้าที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพิ่งจะสร้างขึ้นใหม่ในปี 2005

น้ำตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าหลัก พุ่งออกจากโขดหินมานานนับพันปีโดยไม่เคยหยุดไหล เพียงแค่มองก็พอจะเห็นได้แล้วว่ามีความศักดิ์สิทธิ์แฝงอยู่ในนั้น และแน่นอนว่าน้ำนี้ดื่มได้ คุณจึงสามารถนำใส่ขวดพลาสติกหรือขวดน้ำกลับบ้านไปได้ด้วย

*หากดื่มน้ำที่นำกลับบ้านในวันรุ่งขึ้น เราขอแนะนำให้ต้มก่อนดื่ม

สุดท้ายนี้ เราจะไปที่ศาลเจ้าด้านหลังกัน ที่นี่มีอ่างล้างมืออยู่หน้าศาลเจ้า ดังนั้น อย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนสวดมนต์ด้วย

ตำนานเล่าว่ามีรูขนาดใหญ่รูหนึ่งที่เรียกว่า “Ryuketsu (หลุมมังกร)” อยู่ใต้ศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าด้านหลัง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มองเข้าไปในรูนั้น ศาลเจ้าด้านหลังถือเป็นสถานที่ที่ทรงพลังอย่างมากในศาลเจ้า Kifune

Yui no Yashiro หรือที่เรียกว่า Nakamiya ตั้งอยู่ระหว่างศาลเจ้าหลักและศาลเจ้าด้านหลัง และเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการแต่งงาน ผู้ที่ต้องการมีชีวิตแต่งงานที่ดีควรเขียนความรู้สึกของตนลงไปใน "จดหมายผูกปม" แล้วส่งไปถึงเทพเจ้าแห่ง Yui no Yashiro

ศาลเจ้า Kifune เปิดทำการถึง 20:00 น. และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ตะเกียง Kasuga ก็จะสว่างขึ้น สร้างบรรยากาศที่ดูมหัศจรรย์มาก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตะเกียงเหล่านี้จะตั้งเรียงรายและส่องสว่างอยู่บนถนนเรียวกัง และถนนที่เชื่อมอยู่ระหว่างศาลเจ้าหลัก, Yui no Yashiro และศาลเจ้าด้านหลัง ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีประดับไฟในช่วงหิมะตก

เมื่อไปเยี่ยมชมศาลเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้รับโชคลาภหรือโอมิคุจิ (เครื่องราง) เราจึงจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับศาลเจ้า Kibune และเครื่องรางของศาลเจ้าแห่งนี้กัน

ศาลเจ้า Kifune เป็นที่รู้จักในเรื่อง "Mizuura-mikuji" เป็นเครื่องรางที่มีความพิเศษตรงที่เมื่อนำกระดาษโอมิคุจิไปลอยน้ำ ถ้อยคำของเทพเจ้าก็จะปรากฏขึ้น คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเทพเจ้าแห่งน้ำสามารถล่วงรู้ทุกสิ่ง Mizuura-mikuji จึงมีชื่อเสียงในเรื่องความแม่นยำ

เครื่องรางที่มีชื่อเสียงที่สุดของศาลเจ้า Kifune คือ Musubi-mamori ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยนำความโชคดีมาสู่การแต่งงาน เครื่องรางนี้มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบกระเป๋าและแบบตัวอักษร โดยกระเป๋านั้นจะมีการปักลายตัวละครหลักสองตัวในเรื่องราวความรัก ส่วนแบบตัวอักษรจะมีรูปร่างเหมือนจดหมายปมของ Yui no Yashiro

สมุดสะสมตราประทับโกะชูอินของศาลเจ้า Kifune นั้นมีการออกแบบที่ยอดเยี่ยม มีทั้งสีทอง สีชมพู และสีดำ

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกระเป๋าเก็บสมุดโกะชูอินที่ออกแบบร่วมกับร้าน Shinzaburo Hanpu ร้านขายผ้าใบแคนวาสที่มีมาช้านานในเกียวโตด้วย เป็นสินค้าที่หายากถึงแม้ว่าญี่ปุ่นมีวัดและศาลเจ้าที่ขายสมุดสะสมโกะชูอินอยู่มากมายก็ตาม ดังนั้น ทำไมไม่ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกจากการมาเยือนวัดของคุณล่ะ?

เมื่อเดินไปตามสายน้ำของแม่น้ำ Kibune คุณก็จะพบกับเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น) เล็ก ๆ เรียงเป็นแถวไปตามเส้นทางบนภูเขา เรียวกังเหล่านี้มีบริการอาหารไคเซกิที่เสิร์ฟบนพื้นที่ของแม่น้ำ Kibune

เกียวโตเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำที่ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน เนื่องจากฤดูร้อนในญี่ปุ่นจะร้อนเป็นพิเศษ ผู้คนที่ต้องการอากาศที่เย็นกว่าจึงมักจะเดินทางมา Kibune กันอย่างคับคั่ง

เป็นอย่างไรกันบ้าง?

ตัวอักษรในชื่อของสถานที่นั้นอ่านว่า "Kibune" แต่ในกรณีของศาลเจ้าจะอ่านว่า "Kifune-jinja" ว่ากันว่าชื่อของศาลเจ้านี้ทำหน้าที่เป็นคำอธิษฐานว่าน้ำบริสุทธิ์จะไม่มีวันกลายเป็นโคลนตม

เมื่อมาเยี่ยมชมศาลเจ้า Kifune ความรู้สึกของคุณก็จะเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งในน้ำแห่งชีวิตและพลังความแข็งแกร่ง

เราหวังว่าคุณจะไปเยี่ยมชมศาลเจ้า Kifune ด้วย